Investing.com - ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 25 จุดพื้นฐาน ตามที่คาดการณ์ไว้ พร้อมกับคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ในระดับสูงและใกล้เคียงกับเป้าหมายรายปีในปีต่อ ๆ ไป
BOJ ได้ปรับลดประมาณการผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) สำหรับปีงบประมาณ 2024 และ 2025 ลงเล็กน้อย แต่ปรับเพิ่มประมาณการเงินเฟ้อ
ธนาคารกลางได้ปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ยมาตรฐานที่ 25 จุดพื้นฐาน สู่ระดับประมาณ 0.5% ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ การปรับขึ้นครั้งนี้ถือเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งที่สามของ BOJ นับตั้งแต่ที่เริ่มต้นนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายในช่วงต้นปี 2024
BOJ ส่งสัญญาณว่าหากการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจเป็นไปตามเป้าในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ธนาคารกลางก็จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมอีก
“เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงยังอยู่ในระดับต่ำมาก หากแนวโน้มเศรษฐกิจและราคาที่ระบุในรายงานแนวโน้มเดือนมกราคมเป็นจริง ธนาคารกลางก็จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายและปรับระดับการผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อไป” BOJ ระบุในแถลงการณ์
การปรับขึ้นดอกเบี้ยในวันนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากข้อมูล CPI ที่แสดงให้เห็นว่าเงินเฟ้อในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในเดือนธันวาคม และยังคงอยู่เหนือเป้าหมายรายปีที่ 2% ของ BOJ
BOJ ระบุว่าผู้กำหนดนโยบายคาดว่า CPI จะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2.6% ถึง 2.8% ในปีงบประมาณ 2024 ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 2.4% ถึง 2.5% ส่วนแนวโน้ม CPI ในปี 2025 คาดว่าจะอยู่ที่ 2.2% ถึง 2.6% สูงกว่าการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 1.7% ถึง 2.1%
ในด้านการเติบโต GDP คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 0.4% ถึง 0.6% ในปีงบประมาณ 2024 ลดลงเล็กน้อยจากการคาดการณ์ก่อนหน้า ขณะที่ GDP ในปี 2025 คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 0.9% ถึง 1.1%
รอบการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ BOJ ได้รับแรงผลักดันจากความคาดหวังต่อวงจรเศรษฐกิจที่ดีขึ้นจากการเพิ่มค่าจ้างและการบริโภคภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้น โดยข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่าทั้งสองแนวโน้มยังคงดำเนินไปได้ดี
ธนาคารกลางได้ส่งสัญญาณเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่าการเจรจาค่าจ้างในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2025 จะมีการปรับขึ้นค่าจ้างครั้งใหญ่ ซึ่งจะช่วยให้ BOJ มีพื้นที่มากขึ้นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ยังคาดว่า BOJ อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งต่อไปในเดือนกรกฎาคม หลังจากการเลือกตั้งสภาสูงของญี่ปุ่น ซึ่งจะให้ความชัดเจนทางการเมืองมากขึ้น
ผู้กำหนดนโยบายยังคงกังวลเกี่ยวกับแผนการเพิ่มภาษีการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผู้ส่งออกญี่ปุ่นและทำให้ค่าเงินเยนอ่อนตัวลง