โดย Peter Nurse
Investing.com - หุ้นสหรัฐเปิดตลาดบวกในวันพุธ โดยนักลงทุนต่างรอคอยบทสรุปของการประชุมด้านนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐครั้งล่าสุด
เมื่อเวลา 7:05 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1105 GMT) ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 180 จุดหรือ 0.5%
S&P 500 เพิ่มขึ้น 20 จุดหรือ 0.5%
ขณะที่ Nasdaq 100 ขยับขึ้น 50 จุดหรือ 0.4%
เฟดจะสรุป การประชุมสองวัน ในวันพุธ โดยมีกำหนดจะออกแถลงการณ์ในเวลา 14.00 น. ET (1800 GMT) พร้อมกับการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจและแนวทางความเคลื่อนไหวของอัตราดอกเบี้ย
นักลงทุนยังมองหาข้อมูลเกี่ยวกับระยะเวลาที่ธนาคารกลางจะเริ่มลดการซื้อพันธบัตร ซึ่งข้อมูลนี้จะชี้นำความเคลื่อนไหวของตลาดในเดือนหน้าที่กำลังจะมาถึง
บิล ดิวินี่ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของ ABN Amro กล่าวว่า "เราคาดว่าเฟดจะประกาศการลดการซื้อสินทรัพย์อย่างเป็นทางการในเดือนพฤศจิกายน โดยจะมีการลดการซื้อครั้งแรกในเดือนธันวาคม"
ความเชื่อมั่นได้รับแรงหนุนก่อนการประกาศผลการประชุมในวันพุธนี้ เนื่องจาก China Evergrande Group (HK:3333) ระบุว่าสามารถชำระหนี้พันธบัตรได้ โดยเสนอมาตรการบรรเทาทุกข์แก่นักลงทุนที่กังวลเกี่ยวกับความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ของจีน
General Mills (NYSE:GIS) และ Blackberry (TSX:BB) จะรายงานผลประกอบการรายไตรมาสในวันพุธ ขณะที่ความสนใจอยู่ที่ FedEx (NYSE:{{262) |FDX}}) หลังจากที่บริษัทขนส่งรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกออกมาน่าผิดหวัง โดยอ้างถึงปัญหาด้านซัพพลายเชนและปัญหาด้านแรงงาน
ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นในวันพุธ เนื่องจากข้อมูลอุตสาหกรรมชี้ว่าน้ำมันในคลังของสหรัฐลดลงอย่างมากในสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากพายุเฮอริเคนสองลูกล่าสุดเข้าถล่มอ่าวเม็กซิโกของสหรัฐ
สถาบันปิโตรเลียมแห่งสหรัฐอเมริกา (American Petroleum Institute) รายงาน ตัวเลขน้ำมันดิบในคลังของสหรัฐ ลดลง 6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ลดลงมากกว่าที่คาดไว้ 2.4 ล้านบาร์เรล
ตัวเลขดังกล่าวจะลดลงเป็นสัปดาห์ที่เจ็ดติดต่อกัน หากข้อมูลจาก EIA ยืนยันในวันพุธนี้ โดยจะเป็นตัวชี้วัดถึงการหยุดชะงักของอุปทานที่ยังค้างอยู่
เมื่อเวลา 02.05 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 1.6% ที่ 71.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ เพิ่มขึ้น 1.4% สู่ระดับ 75.42 ดอลลาร์
นอกจากนี้ ราคาทองคำ ลดลง 0.2% มาที่ 1,775.05 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่ ค่าเงินยูโร เพิ่มขึ้น 0.1% เป็น 1.1732 ยูโรต่อดอลลาร์