Investing.com - ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐต่างพากันร่วงลง หลังจากมีการเปิดเผยตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 18 เดือน ซึ่งช่วยบรรเทาความกลัวว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่ก็ทำให้นักลงทุนกังวลว่า เฟดอาจจะปรับนโยบายการเงินแบบผ่อนปรนเร็วกว่าที่คาดไว้
กระทรวงแรงงานสหรัฐกล่าวว่า การขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรกลดลง 35,000 รายเป็น 310,000 ราย สำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 4 กันยายน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม 2020 นั่นชี้ให้เห็นว่า การเติบโตของตลาดแรงงานอาจถูกขัดขวางจากการขาดแคลนคนงานมากกว่าความต้องการงานที่ลดลง
หุ้น Microsoft (NASDAQ:MSFT) และ Amazon (NASDAQ:AMZN) ซึ่งมีน้ำหนักมากที่สุดใน ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ต่างก็ลดลงประมาณ 1%
กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และการดูแลสุขภาพของ S&P 500 แต่ละรายการปรับตัวลงมากกว่า 1% ซึ่งติดลบมากที่สุดในบรรดาทั้งหมด 11 กลุ่ม ในขณะที่กลุ่มการเงิน พลังงาน และวัสดุ บวกเพียงเล็กน้อย
ราคาหุ้น JPMorgan (NYSE:JPM), Wells Fargo (NYSE:WFC), Citi Group และ Morgan Stanley (NYSE:MS) ต่างก็ปรับตัวสูงขึ้น อันเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอ้างอิง
“ปัญหาของตลาดหุ้นในช่วงนี้ คือ มันมักจะแกว่งผันมากกว่าที่จะเคลื่อนไหวไปในทางใดทางหนึ่ง อย่างเช่นเมื่อวานนี้ ซึ่งนักลงทุนหันเข้าหาหุ้นวัฏจักร หลังจากรับทราบตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการฯ” เจย์ แฮทฟิลด์ หัวหน้าผู้บริหารของ Infrastructure Capital Management ในนิวยอร์กกล่าวกับรอยเตอร์สว่า “เรามองว่าตลาดจะแกว่งตัวในกรอบระหว่าง 4,400 ถึง 4,600 จุด (สำหรับ S&P 500) ”
นักลงทุนมีความกังวลมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา หลังจากรายงานการจ้างงานรายเดือนล่าสุดแสดงให้เห็นว่าการจ้างงานในสหรัฐชะลอตัว บ่งชี้ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอาจกำลังสูญเสียแรงขับเคลื่อน นอกจากนี้ ยังมีความไม่แน่ชัดว่า เมื่อใดที่เฟดจะเริ่มถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ประกาศใช้มาตั้งแต่เมื่อปีที่แล้วเพื่อรับมือกับสถานการณ์โควิด
ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง 0.43% ปิดที่ 34,879.38 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ลดลง 0.46% มาอยู่ที่ 4,493.28 จุด
ส่วนดัชนี Nasdaq ลดลง 0.25% มาอยู่ที่ 15,248.25 จุด
การที่จีนประกาศชะลอการอนุมัติวิดีโอเกมออนไลน์ที่ออกใหม่ทั้งหมด ทำให้ราคาหุ้นของบริษัทเกมที่จดทะเบียนในสหรัฐอย่างเช่น Activision Blizzard (NASDAQ:ATVI), Electronic Art Inc และ Take-Two (NASDAQ:TTWO) Interactive Software ลดลงมากกว่า 1%
ปริมาณการซื้อขายในตลาดอยู่ที่ 9.3 พันล้านหุ้น เทียบกับค่าเฉลี่ย 9.1 พันล้านสำหรับช่วง 20 วันทำการล่าสุด
ปัจจัยลบในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังมีจำนวนมากกว่าปัจจัยบวก ในอัตราส่วน 1.03 ต่อ 1 แต่สำหรับดัชนี Nasdaq ปัจจัยบวกยังคงมีมากกว่า ในอัตราส่วน 1.12 ต่อ 1
ทั้งนี้ โดยรวมแล้ว ดัชนี S&P 500 ทำสถิติสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์ใหม่ 29 ครั้งและระดับต่ำสุดใหม่ 1 ครั้ง ขณะที่ดัชนี Nasdaq ทำสถิติสูงสุดใหม่ 67 ครั้ง และระดับต่ำสุดใหม่ 38 ครั้ง