โดย Yasin Ebrahim
Investing.com – ตลาดหุ้น Nasdaq ปิดตัวลงสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อคืนนี้ เนื่องจากราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและชิปรายใหญ่ต่างทะยานขึ้นด้วยแรงซื้อจากนักลงทุนที่ไม่กลัวความเสี่ยง
ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 1% และแตะระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 4,490.0 จุด ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 0.6% หรือ 215 จุด ส่วนดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 1.6% ปิดที่ 14,942.7 จุด
ราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปิดตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 1% ซึ่งช่วยหนุนตลาดโดยรวม โดยหุ้นเทคโนโลยีรายใหญ่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้ว
ราคาหุ้น Apple (NASDAQ:AAPL), Facebook Inc (NASDAQ:FB)และ Google (NASDAQ:GOOGL)และ Amazon.com Inc (NASDAQ:AMZN) เพิ่มขึ้นมากกว่า 1% ส่วน Microsoft Corporation (NASDAQ:MSFT) ค่อนข้างทรงตัว
การเพิ่มขึ้นของหุ้นกลุ่มชิปยังช่วยหนุนกลุ่มเทคโนโลยีด้วย โดยหุ้น NVIDIA Corporation (NASDAQ:NVDA) ทำสถิติสูงสุดท่ามกลางแรงซื้ออย่างต่อเนื่อง หลังจากผลประกอบการรายไตรมาสออกมาดีเกินคาดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
กลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นมากกว่า 3% เนื่องจากราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นและได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนลง รวมถึงสถานการณ์โควิดที่ดีขึ้นในประเทศจีน
ประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่ที่สุดของโลก รายงานว่าไม่พบผู้ป่วยโควิดรายใหม่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ค. ส่งผลให้นักลงทุนคลายความกังวลว่าการเดินทางและความต้องการพลังงานจะชะลอตัวลงเป็นเวลานาน
“ในสัปดาห์ต่อ ๆ ไป เราจะเห็นว่าการจำกัดการเดินทางที่กำหนดไว้ในจีนและประเทศอื่น ๆ ในเอเชียแปซิฟิกจะมีผลกระทบต่อความต้องการเชื้อเพลิงจริงตามที่คาดไว้หรือไม่” Commerzbank (DE:CBKG) กล่าวในรายงาน
Occidental Petroleum Corporation (NYSE:OXY), Devon Energy (NYSE:DVN) และ APA Corporation (NASDAQ:APA) เป็นกลุ่มบริษัทที่ทำกำไรสูงสุด โดยราคาหุ้นเพิ่มขึ้นมากกว่า 7%
หุ้นผู้ผลิตวัคซีนยังคงอยู่ในความสนใจ หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาอนุมัติให้วัคซีนโควิดของ Pfizer Inc (NYSE:PFE) และ BioNTech SE (NASDAQ:BNTX)ได้รับการรับรองอย่างเต็มรูปแบบ ส่งผลให้หุ้นของบริษัทพุ่งขึ้นมากกว่า 2% และ 9% ตามลำดับ .
นอกจากนี้ Pfizer ยังประกาศข้อตกลงมูลค่า 2.3 พันล้านดอลลาร์เพื่อซื้อบริษัทผู้ผลิตยารักษาโรคมะเร็ง Trillium Therapeutics Inc (TSX:TRIL) ซึ่งส่งผลให้หุ้นของบริษัทพุ่งขึ้นกว่า 180%
ในด้านเศรษฐกิจ นักลงทุนกำลังวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจอันหลากหลาย โดยกิจกรรมการผลิตลดลงตามความ ในขณะที่ยอดขายบ้านเพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิด
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตจากสถาบัน IHS Markit ของสหรัฐ ลดลงมาอยู่ที่ 61.2 ในเดือนสิงหาคมจาก 63.4 ในเดือนกรกฎาคม โดยที่นักเศรษฐศาสตร์ประมาณการไว้ที่ 62.5 จุด
ยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้น 2% ในเดือนกรกฎาคม เทียบกับที่คาดการณ์ว่าจะลดลงเล็กน้อย
"เรายังคงมองว่าตลาดที่อยู่อาศัยจะซบเซาเพียงชั่วคราว ก่อนที่จะเกิดวงจรการซื้อขายที่ยั่งยืนขึ้นในที่สุด" Jefferies Financial Group Inc (NYSE:JEF)ระบุ โดยชี้ไปที่ปัญหาขาดแคลนอุปทานที่คาดว่าจะดีขึ้นในปี 2022
การทำสถิติในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันก่อนการประชุมสัมมนาประจำปีของเฟดที่เมือง Jackson Hole โดยประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์มีกำหนดแถลงการณ์ในวันศุกร์ ความสนใจของนักลงทุนจะมุ่งเน้นไปที่เบาะแสใหม่ ๆ เกี่ยวกับแผนการของเฟดที่จะเริ่มปรับลดการซื้อพันธบัตรรายเดือน
ในข่าวอื่น ๆ ราคา Bitcoin พุ่งขึ้นเหนือระดับ 50,000 ดอลลาร์ในช่วงสั้น ๆ จากความคาดหวังสำหรับอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นหลังจาก PayPal (NASDAQ:PYPL) เปิดตัวบริการใหม่ในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับเงินคริปโตในประเทศอังกฤษ ส่งผลให้ราคาหุ้น Riot Blockchain Inc (NASDAQ:RIOT), Marathon Digital Holdings Inc (NASDAQ:MARA) และ PayPal Holdings Inc (NASDAQ:PYPL) เพิ่มสูงขึ้น