โดย วณิชชา สุมานัส
Investing.com – ตลาดหุ้นไทย (SET) วันนี้ (30 ก.ค.) ปิดตลาด โดยดัชนีอยู่ที่ระดับ 1,521.92 จุด ปรับลง 15.85 จุด หรือคิดเป็น 1.03% คาดการณ์กันว่า การระบาดโควิด-19 จะยืดเยื้อกว่าคาด โดยดูได้จากท่าทีของรัฐบาลที่เตรียมออกมาตรการรับมือโควิดที่เข้มขึ้น ซึ่งสร้างความกดดันให้ GDP และกำไรบริษัทจดทะเบียนมีโอกาสปรับตัวลงเนื่องจากฟันด์โฟลว์ไหลออก
โดยบรรยากาศการซื้อขายในวันนี้ หลักทรัพย์ปรับเพิ่มขึ้น 376 หลักทรัพย์ ลดลง 1,417 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง 355 หลักทรัพย์ ทางด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐล่าสุด เมื่อเวลา 15.46 น. รับซื้อกันที่ 31.70 บาท และขายออก 32.90 บาท
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ( บล.) เอเซีย พลัส ชี้ว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลง จากปัจจัยเรื่องมาตราการการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่อาจยาวนานกว่าที่คาด และยอดผู้ติดเชื้อมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น จนส่งผลให้เกิดการกดดันจีดีพีปีนี้ ยิ่งไปกว่านั้น กำไรบริษัทจดทะเบียนมีโอกาสปรับตัวลดลง ทำให้ฟันด์โฟลว์ไหลออกอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในวันนี้ดัชนีปรับตัวลงหลุดระดับเทคนิคที่ 1,530 จุด
นายเทิดศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า ช่วงนี้ต้องตลาดยังรอติดตามท่าที รัฐบาลว่าจะมีมาตรการคุมเข้มเพิ่มเติมหรือไม่ โดยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีในตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้ายังอยู่ที่ แนวรับ 1,510 จุด และแนวต้าน 1,530 จุด และนอกจากนี้ ประเด็นที่ต้องติดตามในสัปดาห์หน้า คือ การประชุม กนง. วันที่ 4 สิงหาคม 2564 ซึ่งตลาดคาด กนง. จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.5% ถึงครึ่งปีแรกในปี 2565 เป็นอย่างน้อย เพื่อประคองเศรษฐกิจ แต่ประเด็นที่ให้น้ำหนักคือ มุมมองของทิศทางเศรษฐกิจไทยของ กนง. รวมถึงการรายงานดัชนี PMI ของทั่วโลก เช่น จีน ยุโรป สหรัฐ
ทั้งนี้ ในช่วงต้นสัปดาห์หน้า อาจแนะนำเป็นหุ้นงบไตรมาส 2 ปี 2564 เติบโตดี มีปันผลระหว่างกาล เช่น TMT, MCS, ADVANC และ TVO