โดย วณิชชา สุมานัส
Investing.com – ตลาดหุ้นไทย (SET) ปิดตลาดเวลา 17.00 น. ดัชนีปิดที่ระดับ 1,538.86 จุด ปรับลดลง -17.15 จุดหรือ -1.10% มูลค่าการซื้อ-ขายทั้งสิ้น 92,952.79 ล้านบาท โดยหลักทรัพย์ปรับเพิ่มขึ้น 400 หลักทรัพย์ ลดลง 1,414 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง 301 หลักทรัพย์
นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้น SET ปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ของสัปดาห์ ซึ่งสาเหตุหลักมาจากความกังวลของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันที่ยังแตะหลักหมื่นและอาจอยู่ในระดับนี้อย่างต่อเนื่อง
นายสรพล ยังกล่าวอีกว่า จากการประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ (GDP) ปี 2564 ประมาณ 1% และเป็นความเสี่ยงขาลงของกำไรต่อหุ้น โดยเฉพาะในกลุ่มหุ้นค้าปลีก เช่น ซีพี ออลล์ จำกัด (CPALL) และ เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (BJC) อีกทั้งมีความเสี่ยงกำไรต่อหุ้นในตลาดหุ้นไทยปี 2564 จะถูกปรับประมาณลงมากกว่าปรับประมาณการขึ้น หากรัฐบาลออกมาตราการควบคุมพื้นที่สีแดงเข้มข้นขึ้นและเพิ่มเติมจาก 13 จังหวัดในปัจจุบัน
ทั้งนี้ ประเมินแนวรับดัชนีที่ 1,530 จุด และ 1,510 จุด ตามลำดับ และแนวต้านที่ 1,600 จุด โดยแนะนำนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงซื้อหุ้นที่ราคาปรับตัวลงแรง ได้แก่ กลุ่มท่องเที่ยว ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (MINT), กลุ่มโรงกลั่น สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (SPRC), กลุ่มโรงพยาบาล กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS), และกลุ่มการเงิน MTC ส่วนคนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำยังไม่แนะนำเพิ่มน้ำหนักลงทุน
5 อันดับหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุดในวันนี้ ได้แก่