Investing.com - ภาพรวมของสามประเด็นหลักที่น่าสนใจประจำวันนี้มีดังต่อไปนี้
1. Tiffany เตรียมรายงานผลประกอบการ
Tiffany & Co (NYSE:TIF) มีกำหนดการรายงาน ผลประกอบการ ในวันนี้ก่อนเวลาเปิดตลาด
ยอดขายทั่วโลกจะเป็นที่น่าจับตาเป็นพิเศษ ภายหลังจากยอดขายในไตรมาสแรกได้รับผลกระทบจากการสูญเสียรายได้จากนักท่องเที่ยวจีนท่ามกลางสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้
ในไตรมาสแรก Tiffany เผยว่ายอดขายทั่วโลกประจำปี 2019 ที่ตลาดตั้งตารอคอยนั้นเพิ่มขึ้นจากปีก่อนคิดเป็นเปอร์เซ็นต์แค่หนึ่งหลัก และกำไรต่อหุ้นก็เติบโตขึ้นด้วยเปอร์เซ็นต์แค่หนึ่งหลักในระดับต่ำถึงปานกลางอีกด้วย
อ้างอิงจากผลคาดการณ์ที่รวบรวมมาโดย Investing.com คาดว่า Tiffany จะทำผลกำไรได้ $1.04 ต่อหุ้น และคาดว่าจะมีรายได้ 1.06 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
2. กำหนดการให้คำกล่าวของเฟด
แม้ขณะนี้จะยังไม่แน่ชัดว่าสหรัฐฯ และจีนจะกลับมาเจรจาทางการค้ากันต่อหรือไม่ แต่ผู้ลงทุนก็ต้องการที่จะฟังคำกล่าวของสมาชิกเฟดเพื่อดูสัญญาณการลด อัตราดอกเบี้ย ในเดือนหน้า
ประธานเฟดประจำริชมอนด์ นายโธมัส บาร์คิน จะให้คำกล่าวในเวลา 12:20 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (4.20 GMT) ส่วนประธานเฟดประจำซานฟรานซิสโก นางแมรี ดาลี ก็จะให้คำกล่าวในเวลา 17:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (9.30pm GMT) ด้วยเช่นกัน
ความคาดหวังต่อการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ของเฟดนั้นลดน้อยลง หลังจาก ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ออกมาดีกว่าคาดการณ์ ชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงมีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง
BMO เผยว่า แม้ตลาดจะคาดหวังให้เฟดลดอัตราดอกเบี้ยในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า แต่เนื่องจากผู้บริโภคยังคงได้รับผลกระทบจากสงครามทางการค้า จึงคาดว่าเฟดน่าจะลดอัตราดอกเบี้ยเพียงหนึ่งส่วนสี่จุดแทนที่จะลดลงไปครึ่งจุด
3. ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังรายสัปดาห์จาก EIA ที่มีกำหนดการรายงานในวันนี้คาดว่าจะลดลงอีกเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน ยิ่งตอกย้ำผลกระทบจากกำลังการผลิตน้ำมันของผู้ผลิตรายใหญ่ที่ลดลงไปมาก
คณะกรรมการติดตามผลการลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบ (JMMC) ของกลุ่มโอเปกและกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันที่ไม่ได้อยู่ในเครือ (OPEC+) ได้รายงานในวันนี้ว่า ระดับการจำกัดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่ม OPEC+ ที่ได้กำหนดไว้ตั้งแต่เมื่อสิ้นปีที่แล้ว ล่าสุดเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2019 มีอัตราการปฏิบัติตามถึง 159% สูงขึ้นจากเดือนที่แล้วถึง 22 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI เด้งกลับขึ้นมาจากขาลงสี่วันติดกัน และปิดตัวสูงขึ้น 2.4% อยู่ที่ $54.37 ต่อบาร์เรล
กำลังการผลิตน้ำมันสหรัฐฯ ที่ยังคงอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในประวัติการณ์ก็จะเป็นที่น่าจับตาในวันนี้ หลังจากดูเหมือนว่ากำลังการผลิตในประเทศเริ่มส่อแววลดลง
Edward Moya นักวิเคราะห์ตลาดจาก Oanda ให้ความเห็นไว้ว่า "หลังจากที่กำลังการผลิตน้ำมันสหรัฐฯ แตะระดับสูงสุดมาโดยตลอดในช่วงต้นปีนี้ จนถึงตอนนี้กำลังการผลิตเริ่มชะลอตัวลงอย่างสม่ำเสมอ ฉะนั้นราคาน้ำมันน่าจะมีแรงหนุนอยู่บ้างเนื่องจากตลาดพลังงานกำลังตึงตัวมากขึ้นเรื่อย ๆ"