โดย Geoffrey Smith
Investing.com -- ตลาดหุ้นสหรัฐเปิดตัวหลายทิศทางในวันนี้ โดยมีบรรยากาศที่ค่อนข้างเป็นไปในแง่บวกจากการเจรจาระหว่างสหรัฐและจีนและยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่ลดลงในสหรัฐ ทว่ากลับมีแรงกดดันจากพายุเฮอร์ริเคนที่กำลังจะพัดเข้าชายฝั่งเร็ว ๆ นี้
ศูนย์พายุเฮอร์ริเคนแห่งชาติ (NHC) ได้ยกระดับพายุลอร่าให้เป็นพายุเฮอร์ริเคนเมื่อคืนนี้จากเดิมที่เป็นพายุโซนร้อนและกำลังจะพัดเข้าชายฝั่งสหรัฐในช่วงกลางคืนของวันพรุ่งนี้ ดังนั้นจึงเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินงานของโรงกลั่นน้ำมันรายหลักหลายแห่งที่ตั้งอยู่ในบริเวณเท็กซัสตะวันออกและหลุยเซียนา ซึ่งโรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งได้ปิดทำการล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นแล้ว ทั้งนี้พายุไม่น่าจะพัดไปถึงฮิวส์ตันซึ่งอยู่ทางตะวันตกของชายฝั่งอ่าวเม็กซิโก
เมื่อเวลา 9:40 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1340 GMT) ดัชนีอุตสาหกรรม Dow Jones ติดลบ 30 จุดหรือ 0.1% เท่ากับ 28,278 จุด ดัชนี S&P 500 ที่ปิดเหนือระดับ 3,400 เมื่อวานนี้ก็ดีดขึ้น 0.1% ส่วนดัชนี Nasdaq Composite ขยับขึ้นไม่ถึง 0.1%
นอกจากนี้ยังมีข่าวดีจากสำนักข่าวรอยเตอร์สที่รายงานว่ายอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนารายใหม่ในสหรัฐลดลงถึง 17% ในสัปดาห์ที่แล้ว ถือเป็นสัปดาห์ที่ห้าติดต่อกันแล้วที่ยอดผู้ติดเชื้อลดลงเรื่อย ๆ
ทางด้านข่าวจากองค์กรต่าง ๆ ในวันนี้ การแตกหุ้น 4 ต่อ 1 ของ Apple (NASDAQ:AAPL) ได้ส่งผลให้ดัชนีอุตสาหกรรม Dow Jones จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนหุ้นในดัชนี โดย Salesforce.com (NYSE:CRM), Amgen (NASDAQ:AMGN) และ Honeywell International (NYSE:HON) จะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของดัชนีในวันที่ 31 สิงหาคมนี้ แทนที่ Exxon Mobil (NYSE:XOM), Pfizer (NYSE:PFE) และ Raytheon Technologies (NYSE:RTX) ที่ถูกปลดออก
Exxon Mobil เป็นสมาชิกที่เก่าแก่ที่สุดของดัชนี Dow โดยได้เข้าร่วมดัชนีตั้งแต่ปี 1928 ในนามบริษัท Standard Oil โดยภายหลังจากการปลด Exxon ทำให้บริษัท Chevron (NYSE:CVX) เป็นบริษัทพลังงานรายสุดท้ายที่หลงเหลืออยู่ในดัชนี