InfoQuest - ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (8 พ.ย.) ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์เป็นเปอร์เซ็นต์มากที่สุดในรอบ 1 ปีหลังจากพุ่งทะลุระดับ 6,000 จุดได้ในระยะสั้น โดยตลาดได้แรงหนุนจากชัยชนะของโดนัลด์ ทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และความเป็นไปได้ที่พรรครีพับลิกันจะได้ครองเสียงข้างมากในสภาคองเกรสนั้นได้เพิ่มความหวังเกี่ยวกับการออกนโยบายที่เอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจ
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 43,988.99 จุด เพิ่มขึ้น 259.65 จุด หรือ +0.59%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,995.54 จุด เพิ่มขึ้น 22.44 จุด หรือ +0.38% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,286.78 จุด เพิ่มขึ้น 17.32 จุด หรือ +0.09%
ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์บวก 4.61%, ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 4.66% และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 5.74%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนในสัปดาห์นี้จากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในวันพฤหัสบดี (7 พ.ย.)
ดัชนีดาวโจนส์และดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือนพ.ย. 2566 ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้นในสัปดาห์นี้มากที่สุดในรอบ 2 เดือนและเป็นการปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดของปีนี้
นักลงทุนจับตาผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าพรรครีพับลิกันจะมีคะแนนนำเล็กน้อยในสภาผู้แทนฯ หลังจากได้ครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาแล้ว ซึ่งจะทำให้รัฐบาลทรัมป์สามารถออกกฎหมายได้ง่ายขึ้น
การคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดภาษีนิติบุคคลและการลดระเบียบต่าง ๆ ได้หนุนดัชนี Nasdaq ปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 3 วันติดต่อกัน และดัชนี S&P500 ปิดตลาดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เป็นครั้งที่ 50 ในปีนี้
ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 44,000 จุดได้เป็นครั้งแรก โดยได้แรงหนุนส่วนหนึ่งจากหุ้นเซลส์ฟอร์ซ (Salesforce) ซึ่งพุ่งขึ้น 3.59% หลังบลูมเบิร์กรายงานว่า เซลส์ฟอร์ซซึ่งเป็นบริษัทซอฟต์แวร์จะจ้างพนักงาน 1,000 คนเพื่อโปรโมทเครื่องมือปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ชื่อว่า เอเจนต์ฟอร์ซ ทูล (Agentforce Tool)
หุ้นที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย อาทิ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มสาธารณูปโภคปรับตัวขึ้นมากที่สุดในบรรดา 11 กลุ่มของดัชนี S&P500
ส่วนผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ จากมหาวิทยาลัยมิชิแกนบ่งชี้ว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือนในช่วงต้นเดือนพ.ย. และการคาดการณ์อนาคตของภาคครัวเรือนนั้นปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี นำโดยการคาดการณ์แนวโน้มที่สดใสของบรรดาสมาชิกพรรครีพับลิกัน