InfoQuest - ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นในวันอังคาร (6 ส.ค.) ตามการฟื้นตัวของตลาดหุ้นทั่วโลกหลังจากร่วงหนักเมื่อวันจันทร์ ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเทคโนโลยีนำตลาดปรับตัวขึ้น นอกจากนี้ การเปิดเผยผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียนช่วยหนุนตลาดด้วย
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 488.44 จุด เพิ่มขึ้น 1.39 จุด หรือ +0.29%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,130.04 จุด ลดลง 18.95 จุด หรือ -0.27%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 17,354.32 จุด เพิ่มขึ้น 15.32 จุด หรือ +0.09% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,026.69 จุด เพิ่มขึ้น 18.46 จุด หรือ +0.23%
ดัชนี Euro Stoxx volatility index หรือดัชนีความวิตก ปรับตัวลงจากระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2565 ที่เข้าทดสอบเมื่อวันจันทร์ ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นของนักลงทุน
ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้น เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นเพื่อเก็งกำไร และความเห็นในเชิงผ่อนคลายนโยบายการเงินจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ช่วยหนุนบรรยากาศการซื้อขายด้วย และดัชนีนิกเกอิของญี่ปุ่นปิดพุ่งขึ้น 10% หลังร่วงหนักสุดนับตั้งแต่เหตุการณ์ Black Monday ในปี 2530
นอกจากนี้ นักลงทุนคลายความวิตกหลังเจ้าหน้าที่เฟดปฏิเสธความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่เตือนว่า เฟดจำเป็นต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ดังกล่าว
ตลาดหุ้นเยอรมนีได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ถึงยอดสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีที่แข็งแกร่งเกินคาด
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้น 1.7% นำโดยหุ้นกลุ่มบริษัทผลิตชิป อาทิ เอเอสเอ็ม อินเทอร์เนชันแนล, เอเอสเอ็มแอล และบีอี เซมิคอนดักเตอร์
หุ้นโนโว นอร์ดิสค์ บริษัทเวชภัณฑ์ของเดนมาร์ก พุ่งขึ้น 4.6% ก่อนเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสในวันพุธนี้