🥇 กฎข้อแรกของการลงทุนหรือ? รู้ว่าเมื่อใดควรประหยัด! รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ก่อนโปรโมชั่น BLACK FRIDAY จะหมดเขตรับส่วนลด

ดาวโจนส์เปิดบวก 126.96 จุด นักลงทุนประเมินผลเลือกตั้งสหรัฐหลัง "ไบเดน" ถอนตัว

เผยแพร่ 23/07/2567 03:50
© Reuters.  ดาวโจนส์เปิดบวก 126.96 จุด นักลงทุนประเมินผลเลือกตั้งสหรัฐหลัง "ไบเดน" ถอนตัว
DJI
-

InfoQuest - ดัชนีดาวโจนส์เปิดตลาดในแดนบวกในวันนี้ (22 ก.ค.) ขณะที่นักลงทุนกำลังประเมินโอกาสที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ท้าชิงจากพรรครีพับลิกัน จะได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐเป็นสมัยที่สองในการเลือกตั้งเดือนพ.ย.นี้ หลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ประกาศถอนตัวจากการลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2567

ณ เวลา 20.33 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 40,414.49 จุด บวก 126.96 จุด หรือ +0.32%

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ไบเดนประกาศถอนตัวจากการลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ และประกาศสนับสนุนนางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐ ให้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตเพื่อลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย.ปีนี้

ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การถอนตัวของไบเดนอาจทำให้นักลงทุนต้องกลับมาทบทวนกลยุทธ์การซื้อขาย เพราะเดิมทีหลายฝ่ายคาดการณ์ว่า หากพรรครีพับลิกันชนะเลือกตั้ง ก็อาจนำไปสู่ภาระทางการคลังของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นและเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ขณะที่นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่า ตลาดอาจได้ประโยชน์หากรัฐบาลชุดใหม่มีแนวโน้มจะครองเสียงข้างมากได้แค่สภาเดียว

พอล แอชเวิร์ธ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำภูมิภาคอเมริกาเหนือของ Capital Economics กล่าวว่า "ทรัมป์ยังคงเป็นตัวเต็งที่จะชนะการเลือกตั้ง แต่โอกาสชนะของเขาลดลงเล็กน้อยเมื่อต้องเจอกับแฮร์ริส เทียบกับตอนที่เจอกับไบเดน"

"แฮร์ริสมีโอกาสที่จะได้พิสูจน์ตัวเองต่อชาวอเมริกันในการโต้วาทีประธานาธิบดีครั้งที่สอง ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 10 ก.ย.นี้ แต่ทีมหาเสียงของทรัมป์อาจให้เขาไม่ไปดีเบต หากไม่อยากให้เขาเผชิญหน้ากับอดีตอัยการคนนี้"
สัปดาห์นี้ นักลงทุนต่างจับตาผลประกอบการรายไตรมาสของบริษัทจดทะเบียน รวมถึงบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำอย่าง Alphabet และ Tesla (NASDAQ:TSLA) เพื่อประเมินว่าราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นมาในช่วงหลังนี้จะสามารถคงโมเมนตัมต่อไปได้หรือไม่

นอกจากนี้ นักลงทุนยังคอยติดตามข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญตลอดทั้งสัปดาห์นี้ ไม่ว่าจะเป็นดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนมิ.ย.ของสหรัฐ ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ รวมถึงยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมิ.ย.ของสหรัฐ และ GDP ไตรมาส 2/2567 (ประมาณการเบื้องต้น) ของสหรัฐ เพื่อหาสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินของเฟด

เครื่องมือ FedWatch ของ CME บ่งชี้ว่า เทรดเดอร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมเดือนก.ย. และปรับลดลงอีก 2 ครั้ง ภายในสิ้นปี

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย