Investing.com - หุ้นฟิวเจอร์สสหรัฐทรงตัวในการซื้อขายช่วงเย็นวันพฤหัสบดี เนื่องจากวอลล์สตรีทถูกกดดันจากการเทขายทำกำไรแม้ว่าจะมีสัญญาณว่าเงินเฟ้อจะเย็นลง โดยขณะนี้โฟกัสจึงมุ่งไปที่ฤดูกาลรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่สอง
เมื่อเวลา 19:03 ET (23:03 GMT) S&P 500 ฟิวเจอร์ส ทรงตัวที่ 5,641.50 จุด ขณะที่ Nasdaq 100 ฟิวเจอร์ส อยู่ที่ 20,444.25 จุด ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส ขยับขึ้นเล็กน้อยเป็น 40,123.0 จุด
ข้อมูล CPI ที่อ่อนแอเพิ่มความหวังการลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน
ข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภคที่อ่อนตัวกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนมิถุนายน ได้ทำให้นักลงทุนคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐจะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน
CPI รายปีเพิ่มขึ้น 3% ในเดือนมิถุนายน ซึ่งช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่ core CPI เพิ่มขึ้น 3.3% ซึ่งก็ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้เช่นกัน
ข้อมูลดังกล่าวได้ทำให้เทรดเดอร์คาดการณ์ว่ามีโอกาสมากกว่า 85% ที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 จุดพื้นฐานในเดือนกันยายน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากโอกาศ 65% เมื่อวันก่อนหน้า ตามข้อมูลของเครื่องมือ Fedwatch จาก CME
แต่อัตราเงินเฟ้อที่อ่อนแอ บวกกับข้อมูลทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ไม่ดีนักในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ทำให้เกิดความกังวลว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจอาจชะลอตัวลงเช่นกัน
วอลล์สตรีทร่วงลงจากการเทขายทำกำไรในหุ้นเทคโนโลยี
แม้ว่าจะมีความหวังเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ย แต่ดัชนีวอลล์สตรีทกลับขยับลงห่างจากจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันพฤหัสบดี โดยเฉพาะในหุ้นเทคโนโลยี
การขาดทุนดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อนักลงทุนเทขายทำกำไรในภาคส่วนนี้ เนื่องจากมีการปรับตัวขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาจากความฮือฮาเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์
NVIDIA Corporation (NASDAQ:NVDA) ลดลง 0.8% ในการซื้อขายหลังตลาดปิดหลังจากลดลง 5.6% ในระหว่างเซสชั่นวันพฤหัสบดี
Tesla Inc (NASDAQ:TSLA) ลดลง 2% หลังจากมีรายงานว่า การเปิดตัวรถแท็กซี่อัตโนมัติจะถูกเลื่อนจากเดือนสิงหาคมเป็นไปเดือนตุลาคม
หุ้นเทคโนโลยีถือเป็นกลุ่มที่ถ่วงดัชนีวอลล์สตรีทมากที่สุดในวันพฤหัสบดี หลังจากที่ได้ขับเคลื่อนการฟื้นตัวของตลาดหุ้นอย่างโดดเด่นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
S&P 500 ลดลง 0.9% ปิดที่ 5,584.54 จุด ขณะที่ NASDAQ คอมโพสิต ลดลง 1.9% ปิดที่ 18,288.62 จุด ดาวโจนส์ ขยับขึ้น 0.1% ปิดที่ 39,753.75 จุด
ฤดูกาลรายงานผลประกอบการ Q2 จะเริ่มต้นด้วยกลุ่มธนาคาร
ตลาดกำลงโฟกัสความสนใจไปที่ฤดูกาลรายงานผลประกอบการในไตรมาสที่สอง ซึ่งจะเริ่มต้นอย่างจริงจังด้วยการรายงานผลประกอบการของกลุ่มธนาคารที่สำคัญในวันนี้
ซึ่งมีทั้ง JPMorgan Chase & Co (NYSE:JPM) Wells Fargo & Company (NYSE:WFC) Citigroup Inc (NYSE:C) และ Bank of New York Mellon (NYSE:BK) โดยจะมีการรายงานผลประกอบการตลอดทั้งวัน ส่วนในสัปดาห์หน้าธนาคารใหญ่ ๆ เช่น Goldman Sachs Group Inc (NYSE:GS) BlackRock Inc (NYSE:BLK) Morgan Stanley (NYSE:MS) และ Bank of America Corp (NYSE:BAC) ก็จะรายงานผลประกอบการในวันจันทร์และอังคาร
ซึ่งความสนใจส่วนใหญ่ก็จะอยู่ที่ว่าผลประกอบการของบริษัทต่าง ๆ ได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงและเงินเฟ้อที่ยังคงสูงอยู่หรือไม่ ซึ่งเป็นปัจจัยที่เห็นได้ชัดว่าทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวลงในไตรมาสที่สอง