Investing.com - หุ้นทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเปิดตลาดในทิศทางที่หลากหลายในวันนี้ หลังจากเซสชั่นที่ผันผวนในวอลล์สตรีทและการขายออกในหุ้นยุโรป
เมื่อเวลา 10:40 AEST (12:40 GMT) S&P/ASX 200 แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลง KOSPI 200 ขยับลง 0.1% และ Nikkei 225 ร่วงลง 1.9%
ในสหรัฐอเมริกา หุ้นสามารถรักษาตำแหน่งของตนได้ในวันศุกร์ และปิดสัปดาห์ไปแบบเพิ่มขึ้นอย่างมาก NASDAQ คอมโพสิต ขยับขึ้น 0.1% สู่ระดับสูงสุดใหม่ ปิดสัปดาห์ด้วยกำไรกว่า 3.2% S&P 500 ขยับลงจากระดับสูงสุด แต่ยังคงเพิ่มขึ้นที่ 1.6% ตลอดสัปดาห์ แต่ ดาวโจนส์ กลับเคลื่อนไหวได้แตกต่าง โดยปรับลดลง 0.5% ในสัปดาห์
น้ำมันดิบเบรนท์ ปรับลง 0.2% เป็น 82.62 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ทองคำ เพิ่มขึ้น 1.3% เป็น 2,333.04 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ในตลาดพันธบัตรท้องถิ่น อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลออสเตรเลียอายุ 2 ปี ลดลงเป็น 3.90% ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลออสเตรเลียอายุ 10 ปี ลดลงเป็น 4.12% ทางด้านพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปียังคงอยู่ที่ 4.70% และพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ลดลงเป็น 4.22%
หุ้นจีนปิดบวกจากแรงหนุนของหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และฮาร์ดแวร์ ขณะที่นักลงทุนกำลังรอการประกาศจาก PBOC เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง หุ้นฮ่องกงปิดตลาดแบบลดลงหลังถูกกดดันจากการขาดทุนของหุ้นค้าปลีกท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
หุ้นญี่ปุ่นปิดสูงขึ้นจากกำไรของหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และการค้า หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่นยังคงปริมาณการซื้อพันธบัตรไว้ไม่เปลี่ยนแปลง ขณะที่หุ้นอินเดียปิดเป็นบวกโดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มยานยนต์และการเงิน เนื่องจากการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรี Modi's ดูเหมือนจะบรรเทาความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายใต้รัฐบาลผสมชุดใหม่
ในยุโรป หุ้นในสหราชอาณาจักรปรับลดลงในวันศุกร์ โดย FTSE 100 ลดลง 0.2% เป็น 8,146.86 จุด ด้านหุ้นทั่วยุโรปก็ปิดตลาดแบบลดลงเช่นกัน เนื่องจากนักลงทุนเลือกที่ละลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลที่ปลอดภัยท่ามกลางความวุ่นวายทางการเมืองในฝรั่งเศสที่เพิ่มความกังวลเกี่ยวกับความเป็นเอกภาพของสหภาพยุโรป
CAC 40 ในปารีสปรับลดลง 6.2% ในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการขาดทุนที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2022 ขณะที่ Stoxx 600 ลดลง 2.4% ในสัปดาห์นี้ ถือเป็นผลการดำเนินงานที่แย่ที่สุดตั้งแต่เดือนตุลาคม