InfoQuest - ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันพฤหัสบดี (22 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังอินวิเดีย บริษัทชิปรายใหญ่ของสหรัฐรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งและแนวโน้มที่สดใส ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) คลายความวิตกเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 495.10 จุด เพิ่มขึ้น 4.05 จุด หรือ +0.82%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,911.60 จุด เพิ่มขึ้น 99.51จุด หรือ +1.27%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 17,370.45 จุด เพิ่มขึ้น 252.33 จุด หรือ +1.47% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,684.49 จุด เพิ่มขึ้น 21.98 จุด หรือ +0.29%
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ระดับสูงเป็นประวัติการณ์ โดยทำลายสถิติสูงสุดที่เคยทำไว้ในเดือนม.ค. 2565
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้น 3% ขณะที่หุ้นอินวิเดียของสหรัฐทะยานขึ้น 15% ที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กหลังรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่ง
หุ้นบีอีเอสไอ เซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายอุปกรณ์ผลิตชิปของเนเธอร์แลนด์แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์โดยพุ่งขึ้น 4.9% หลังความต้องการชิ้นส่วนการผลิตชิปที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพิ่มขึ้นเกินเป้าหมายในไตรมาส 4
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่ง 12.4% แล้วในปีนี้ และอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 23 ปี โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่สดใสของบริษัทเอสเอพีและบริษัทเอเอสเอ็มแอล โฮลดิง ซึ่งต่างก็ได้แรงหนุนจากกระแสนิยมด้าน AI
หุ้นเมอร์เซเดส-เบนซ์ พุ่ง 4.7% หลังรายงานผลประกอบการทั้งปีแข็งแกร่ง และประกาศโครงการซื้อหุ้นคืนวงเงิน 3 พันล้านยูโร (3.26 พันล้านดอลลาร์)
นอกจากนี้ ปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดยังมาจากการเปิดเผยรายงานการประชุมที่บ่งชี้ว่า ผู้กำหนดนโยบายของ ECB เห็นพ้องกันในเดือนม.ค.ว่า เงินเฟ้อกำลังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ แม้ยังเร็วเกินไปที่จะหารือเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เมื่อพิจารณาจากการขยายตัวของค่าจ้างอย่างรวดเร็วและแรงกดดันด้านราคาที่ยังมีอยู่อย่างมาก
ผลสำรวจกิจกรรมทางธุรกิจของยูโรโซนปรับตัวดีขึ้นในเดือนก.พ. โดยภาคบริการฟื้นตัวหลังหดตัวติดต่อกัน 6 เดือน และได้ช่วยชดเชยการลดลงของกิจกรรมในภาคผลิต