Investing.com - ราคาหุ้นฟิวเจอร์สมีการซื้อขายทรงตัวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เริ่มต้นปีใหม่หลังจากเติบโตอย่างแข็งแกร่งอย่างน่าประหลาดใจในปี 2023 ซึ่ง S&P 500 พุ่งขึ้นสูงถึง 24%
เมื่อเวลา 6:40 a.m. ET (11:40 p.m. GMT) ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส และ Nasdaq 100 ฟิวเจอร์ส ปรับขึ้น 0.1% ขณะที่ S&P 500 ฟิวเจอร์ส ยังคงทรงตัว
ตลาดหุ้นปิดท้ายปี 2023 ด้วยสถิติสูงสุด โดยดัชนี S&P 500 ขยับขึ้นเก้าสัปดาห์ติดต่อกันและปิดรอบปี สร้างสถิติการปรับขึ้นดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2004 ทางด้านสินทรัพย์เสี่ยงมีการซื้อขายเบาบางลงอย่างมาก เนื่องจากเศรษฐกิจฟื้นตัวและอัตราเงินเฟ้อผ่อนคลายลง ธนาคารกลางสหรัฐยังส่งสัญญาณยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ตลาดต้องเผชิญวิกฤติการธนาคารในภูมิภาคและความขัดแย้งที่กำลังดำเนินอยู่ในยูเครนและตะวันออกกลาง
หุ้นเทคโนโลยี โดยเฉพาะหุ้นจากบริษัทขนาดใหญ่ เป็นกลุ่มหุ้นที่ปรับตัวขึ้นอย่างมากในปี 2023 Apple Inc (NASDAQ:AAPL) เพิ่มขึ้น 48% Microsoft Corporation (NASDAQ:MSFT) เพิ่มขึ้นเกือบ 57% และ NVIDIA Corporation (NASDAQ:NVDA) ) เพิ่มขึ้นอย่างน่าประทับใจถึง 239%
ดัชนี NASDAQ คอมโพสิต ที่ประกอบด้วยหุ้นเทคโนโลยีเป็นส่วนใหญ่ปิดท้ายปีด้วยการเพิ่มขึ้น 43.4% ซึ่งถือเป็นการปรับขึ้นที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2020 โดยหุ้นบลูชิป ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 13.7% และทำสถิติสูงสุดใหม่ตลอดกาลในช่วงปี 2023
อย่างไรก็ตาม หลังจากผลการดำเนินงานที่โดดเด่นในปี 2023 นักยุทธศาสตร์ของวอลล์สตรีทคาดว่าผลตอบแทนของหุ้นจะลดลงอย่างมากในปี 2024 โดยจากการสำรวจ Market Strategist ของ CNBC PRO นักยุทธศาสตร์ชั้นนำจากบริษัทใหญ่ ๆ คาดการณ์ว่า S&P 500 จะสิ้นสุดปี 2024 ที่ 4,881 ซึ่งสูงกว่าระดับการปิดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเพียง 4,769.83 เพิ่มขึ้นประมาณ 2.3%
นักวิเคราะห์บางคนเตือนว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นและการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ลดลงอาจส่งผลให้การเติบโตของรายได้สำหรับธุรกิจช้าลง
ในตลาดตราสารหนี้ อัตราผลตอบแทน พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี อยู่ที่ 3.878%