🏃 คว้าข้อเสนอ Black Friday ก่อนใคร รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ตอนนี้!รับส่วนลด

(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้ารีบาวด์ตอบรับ Sentiment เชิงบวก หลังเฟดส่งสัญญาณเริ่มลดดอกเบี้ยปีหน้า

เผยแพร่ 14/12/2566 16:57
© Reuters.  (เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้ารีบาวด์ตอบรับ Sentiment เชิงบวก หลังเฟดส่งสัญญาณเริ่มลดดอกเบี้ยปีหน้า
SETI
-

InfoQuest - นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่าตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดดัชนีรีบาวด์ เนื่องจากผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อคืนนี้ (13 ธ.ค.) มีการเปลี่ยนมุมมองในเรื่องนโยบายดอกเบี้ย ในเชิงที่ผ่อนคลายมากขึ้น โดยส่งสัญญาณลดอัตราดอกเบี้ยในปี 67 มากกว่า 3 ครั้ง และในปี 68 จะปรับลดลงอัตราดอกเบี้ยอีก 4 ครั้ง

ทำให้เมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งทำสถิติสูงสุดด้วย ซึ่งคาดว่าจะส่ง Sentiment มาให้ตลาดหุ้นไทย หลังเมื่อวานทำระดับต่ำสุดใหม่ (New Low) ในรอบ 3 ปี ทั้งนี้คาดว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยรีบาวด์สอดคล้องกับตลาดภูมิภาค แต่ตลาดหุ้นไทยอาจจะไม่ได้ปรับตัวขึ้นแรง ด้วยพื้นฐานเศรษฐกิจไทยไม่ดีเท่าไร

โดยให้กรอบแนวต้าน 1,370 จุด ซึ่งถ้ายืนได้จะเป็นสัญญาณบวกเป็นการรีบาวด์ได้อย่างมีนัยสำคัญ และแนวรับ 1,350 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (13 ธ.ค.66) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 37,090.24 จุด เพิ่มขึ้น 512.30 จุด หรือ +1.40%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,707.09 จุด เพิ่มขึ้น 63.39 จุด หรือ +1.37% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,733.96 จุด เพิ่มขึ้น 200.57 จุด หรือ +1.38%

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดภาคเช้าที่ระดับ 33,032.30 จุด เพิ่มขึ้น 105.95 จุด หรือ +0.32% ขณะที่ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 16,419.74 จุด เพิ่มขึ้น 190.99 จุด หรือ +1.18% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 2,979.70 จุด เพิ่มขึ้น 10.94 จุด หรือ + 0.37%

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (13 ธ.ค.66) ที่ 1,357.97 จุด ลดลง 15.95 จุด (-1.16%) มูลค่าซื้อขาย 37,984.99 ล้านบาท

- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 502.69 ล้านบาท (13 ธ.ค.66)

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.(13 ธ.ค.) เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 69.47 ดอลลาร์/บาร์เรล

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (13 ธ.ค.66) อยู่ที่ 8.53 เหรียญ/บาร์เรล

- เงินบาทเปิด 35.14 พลิกแข็งค่า หลังเฟดคงดอกเบี้ยตามคาด จับตาผลประชุม BoE-ECB วันนี้

- "เศรษฐา" นายกฯ รับปากจะเร่งเรียกเชื่อมั่นนักลงทุน หลังตลาดหุ้นไทยดิ่งต่ำสุดในรอบ 3 ปี ขณะที่สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ชี้ หุ้นไทยร่วงจากแรงกดดันต่างประเทศที่ยังมีต่อเนื่อง แนะตลาดหลักทรัพย์ฯ สร้างพื้นฐานใหม่ และเป็นโอกาสทบทวนคุณภาพบจ. หลังเกิดปัญหาปั่นหุ้นเล็ก-ผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ พร้อมมองหาหุ้นใหม่ที่น่าสนใจ

- แบงก์กสิกรไทย (KBANK (BK:KBANK)) ชี้ นักลงทุนกลุ่มเป๋าหนักขนเงินกลับเข้าลงทุนตลาดหุ้นไทย-กองทุนรวม เพื่อลดความเสี่ยงด้านภาษีจากต่างประเทศ ที่กรมสรรพากรดีเดย์เก็บ 1 ม.ค. 67 พร้อมเปิดทริกปั้นพอร์ตรับปีมังกร เน้นกองทุนผสมแบบ Risk-based asset allocation ตราสารหนี้คุณภาพดี ทั้งพันธบัตรและหุ้นกู้ และเน้นกองทุนที่บริหารเชิงรุกในหุ้นเติบโตทั่วโลกและหุ้นเอเชียที่ราคาถูกกดดัน ทั้งหุ้นไทย จีน อินเดีย เวียดนาม

- "เศรษฐา" ย้ำพร้อมดูแลค่าไฟฟ้า เพื่อสร้างความเชื่อมั่นทุกภาคส่วน แย้มค่าไฟกลุ่มเปราะบางหายห่วงตรึงได้ที่ 3.99 บาทต่อหน่วยแน่ แต่ส่วนผู้ใช้ไฟทั่วไปที่เกิน 300 หน่วยต่อเดือนมีโอกาสเห็นต่ำกว่า 4.20 บาทต่อหน่วย โดยคาดว่าจะอยู่ระหว่าง 4.10-4.19 บาทต่อหน่วยได้โดยต้องรอ ครม.เคาะอีกครั้ง กฟผ.โอดต้นปีขาดสภาพคล่องเหตุ แบกภาระค่าไฟแตะ 1.37 แสนล้านบาท ปี 67

- "กนง." ชี้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยกำลัง ฟื้นตัวสู่จุดสมดุลมากขึ้นในปีหน้า ประเมินจีดีพีขยายตัวที่ 3.2% แม้ไม่มีดิจิทัลวอลเล็ต นับเป็นการขยายตัวระดับกลางๆ ไม่ หวือหวา พร้อมย้ำดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.5% เป็นระดับเหมาะสม ในการดูแลความเสี่ยง มั่นใจไม่ฉุดรั้งเศรษฐกิจไทย

- สนค. เปิดเผยถึงกรณีหากปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำอีกวันละ 2-16 บาท หรือ 2.37% มาอยู่ที่เฉลี่ยวันละ 345 บาท ตามมติคณะกรรมการค่าจ้างขั้นต่ำว่า จะทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นไม่มากนักเพียง 0.13-0.25% ขึ้นอยู่กับการใช้จำนวนแรงงานและสภาพการแข่งขันของแต่ละสินค้า หากแข่งขันน้อย และใช้แรงงานมากก็อาจต้องขึ้นราคาสินค้ามาก แต่หากใช้เทคโนโลยีลดต้นทุนด้านอื่นๆ แทน อาจขึ้นราคาสินค้าน้อย

- "เศรษฐา" มอบนโยบายส่งเสริมท่องเที่ยว สั่ง ททท.หาทางเพิ่มค่าใช้จ่ายต่อทริปของนักท่องเที่ยวต่างชาติให้มากขึ้น พร้อมรุกหาจุดเด่นเมืองรอง "สุดาวรรณ" รับลูกไปหารือว่าจะเพิ่มจากปีนี้ที่เฉลี่ย 43,000 บาทต่อหัวต่อทริปได้อีกเท่าใด ขณะที่ผู้ว่าการ ททท.พร้อมสู้เต็มที่ขอให้สั่งมา

*หุ้นเด่นวันนี้

- บมจ. เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล (ANI) ผู้ประกอบธุรกิจตัวแทนขายระวางสินค้าสายการบิน ให้แก่สาย การบินชั้นนำ พร้อมซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 14 ธ.ค.นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 9,702 ล้านบาท ราคา IPO หุ้นละ 5.25 บาท มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO คือ บมจ. ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ (III) ร้อยละ 36.1 และ Mr. Thomas Tay Nguen Cheong ร้อยละ 33.2

- บมจ.มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MGI) เจ้าของเวทีประกวดนางงามก้องโลก "มิสแกรนด์ ไทยแลนด์" และ "มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล"เข้าซื้อขายเป็นวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) หมวดธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค ในวันที่ 14 ธันวาคม 2566 ราคา IPO ที่ 4.95 บาท/หุ้น มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 2 อันดับแรกก่อนและหลัง IPO คือ นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล และนายรัชพล จันทรทิม

- HTC(ไอร่า)"ทยอยซื้อสะสม" ราคาเป้าหมาย 16.60/17..00 บาท คาด HTC มีโอกาสได้รับแรงเก็งกำไรจาก High Season ในช่วงไตรมาส 4/66 จากนักท่องเที่ยวภาคใต้เพิ่มมากขึ้น หนุนการบริโภคสูงขึ้น ขณะที่ราคา HTC ปัจจุบันซื้อขายที่ระดับ Fwd Div. 7.0%+/- เรามองเป็นระดับราคาที่น่าสนใจช่วยจำกัด Downside ของ HTC ได้ ทางเทคนิค ราคาอยู่ในกรอบทิศทางแนวโน้มขาขึ้นพยายามทำจุดสูงสุดใหม่ พร้อมปริมาณการซื้อขายหนาแน่น ขณะที่เครื่องมือทางเทคนิค MACD และ SSTO ให้สัญญาณซื้อ

- TIDLOR (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 28 บาท แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 4/66 คาดว่าจะทยอยเติบโตดีขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่คุณภาพสินทรัพย์จะดีขึ้นเช่นกันหลังจากที่ผ่านช่วงแย่สุดในไตรมาส 2/66 ไปแล้ว ระยะสั้นได้ Sentiment บวกจากทิศทางดอกเบี้ย และ Bond Yield ที่ปรับลง เราชอบ TIDLOR ในแง่ Coverage Ratio ที่สูงและช่วยจำกัดความเสี่ยงในการตั้งสำรองปริมาณสูง ซึ่งทำให้ Downside ต่อประมาณการปี 2566 ที่คาด -7% y-y และเร่งตัวแกร่ง +21%y-y ในปี 2567 จำกัด

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย