🏃 คว้าข้อเสนอ Black Friday ก่อนใคร รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ตอนนี้!รับส่วนลด

ภาวะตลาดหุ้นไทย: ปิดลบ 2.55 จุดรับแรงขายพลังงาน-รพ.กดดัน ลุ้นตัวเลขส่งออก-นำเข้าจีนพรุ่งนี้

เผยแพร่ 07/11/2566 00:19
© Reuters.  ภาวะตลาดหุ้นไทย: ปิดลบ 2.55 จุดรับแรงขายพลังงาน-รพ.กดดัน ลุ้นตัวเลขส่งออก-นำเข้าจีนพรุ่งนี้
SETI
-
BDMS
-
CPALL
-
KBANK
-
PTTEP
-

InfoQuest - SET ปิดวันนี้ที่ 1,417.21 จุด ลดลง 2.55 จุด (-0.18%) มูลค่าซื้อขาย 42,924.19 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ ระบุ ตลาดหุ้นไทยฟื้นตามภูมิภาค ช่วงเช้าดีดขึ้นไปแรงกว่า 10 จุดก่อนเผชิญแรงขายทำกำไรกดให้อ่อนตัวลงมาในแดนลบ โดยเฉพาะกลุ่มพลังงานและโรงพยาบาล ขณะที่นักลงทุนยังรอติดตามผลประกอบการ บจ.ส่งผลให้ฟื้นตัวได้อ่อนแอกว่าภูมิภาค แนวโน้มพรุ่งนี้คาดแกว่งไซด์เวย์ออกด้านข้าง จับตาตัวเลขนำเข้า-ส่งออกจีนหากออกมาดีอาจเป็นแรงหนุน ให้แนวรับ 1,415 จุด และแนวต้าน 1,430 จุด

SET ปิดวันนี้ที่ 1,417.21 จุด ลดลง 2.55 จุด (-0.18%) มูลค่าการซื้อขาย 42,924.19 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ช่วงต้นภาคเช้าดัชนีดีดขึ้นไปกว่า 10 จุดก่อนจะค่อย ๆ อ่อนตัวลง โดยทำจุดต่ำสุด 1,417.21 จุด และจุดสูงสุดที่ 1,431.51 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 204 หลักทรัพย์ ลดลง 285 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 157 หลักทรัพย์

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ฟื้นตัวตามตลาดหุ้นภูมิภาค โดยช่วงเช้าบวกไปแรงกว่า 10 จุด แต่ค่อยๆอ่อนตัวลง โดยกลุ่มพลังงานและโรงพยาบาลกดดันดัชนีเล็กน้อยส่งผลให้ฟื้นตัวอ่อนแอกว่าภูมิภาคบ้าง ขณะที่นักลงทุนยังรอติดตามการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 3/66

นอกจากนั้น ตัวเลขเงินเฟ้อของไทยที่ออกมาค่อนข้างผสมผสาน โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปต่ำกว่าคาด แต่เงินเฟ้อพื้นฐานสูงกว่าคาดเล็กน้อย จึงทำให้ตลาดทรงตัวหลังจากบวกแรงมาต่อเนื่อง 2 วันสุดท้ายของสัปดาห์ก่อน

แนวโน้มในวันพรุ่งนี้คาดว่าดัชนีมีทิศทางไซด์เวย์ออกด้านข้าง นักลงทุนติดตามการรายงานตัวเลขยอดนำเข้า-ส่งออก และดุลการค้าเดือน ต.ค.ของจีน หากตัวเลขออกมาดีก็อาจจะช่วยหนุนดัชนีหุ้นไทย

พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 1,415 จุดและแนวต้าน 1,430 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,821.89 ล้านบาท ปิดที่ 163.50 บาท ลดลง 1.50 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,503.23 ล้านบาท ปิดที่ 222.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท

CPALL (BK:CPALL) มูลค่าการซื้อขาย 1,417.21 ล้านบาท ปิดที่ 56.25 บาท ลดลง 0.50 บาท

KBANK (BK:KBANK) มูลค่าการซื้อขาย 1,339.39 ล้านบาท ปิดที่ 132.00 บาท ลดลง 1.50 บาท

BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,314.99 ล้านบาท ปิดที่ 26.50 บาท ลดลง 0.50 บาท

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย