InfoQuest - SET ปิดวันนี้ที่ 1,388.23 จุด เพิ่มขึ้น 17.01 จุด (+1.24%) มูลค่าซื้อขาย 41,247.37 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ ระบุตลาดหุ้นไทยวันนี้ดีดกลับมาแรงในช่วงท้ายภาคบ่าย สอดคล้องภูมิภาคตอบรับบอนด์ยีลด์ย่อตัวหลัง GDP สหรัฐดีกว่าคาดอาจทำให้เฟดคงดอกเบี้ยสูงนาน แต่เป็นสัญญาณบวกเล็กน้อยให้กับตลาดหุ้น รวมทั้งสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางยังไม่ลุกลาม แนวโน้มสัปดาห์หน้าขึ้นกับสงครามอิสราเอล-ฮามาส และหากบอนด์ยีลด์อยู่ในช่วง 4.8-5% คาด SET แกว่งในกรอบ 1,370-1,400 จุด แต่หากทะลุ 5% อีกมองแนวรับ 1,350 จุด และหากต่ำกว่า 4.8% อาจดัน SET ขึ้นไปที่ 1,430 จุด
SET ปิดวันนี้ที่ 1,388.23 จุด เพิ่มขึ้น 17.01 จุด (+1.24%) มูลค่าซื้อขาย 41,247.37 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีแกว่งไซด์เวย์ก่อนดีดขึ้นในช่วงท้ายตลาด โดยดัชนีทำจุดต่ำสุด 1,366.19 จุด ทำจุดสูงสุดที่ 1,390.79 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 329 หลักทรัพย์ ลดลง 168 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 148 หลักทรัพย์
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ดีดกลับขึ้นมาได้ดีขึ้นในช่วงท้ายภาคบ่าย สอดคล้องตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่มีทิศทางบวก เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) อายุ 10 ปีย่อลง เนื่องจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐดีกว่าคาด นักลงทุนส่วนใหญ่กังวลว่าการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สัปดาห์หน้าอาจส่งสัญญาณคงดอกเบี้ยนานกว่าคาด เมื่อบอนด์ยีลด์ย่อลงจึงเป็นสัญญาณบวกให้กับตลาดหุ้นได้เล็กน้อย รวมทั้งสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง อิสราเอลยังไม่โจมตีในภาคพื้นดินที่ฉนวนกาซา จึงทำให้ยังไม่ลุกลาม
สำหรับหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการที่บอนด์ยีลด์ชะลอตัวลง อาทิ กลุ่มโรงไฟฟ้า การเงิน รวมทั้งหุ้นขนาดใหญ่ที่ราคาตัวลงมากวันนี้ฟื้นตัวขึ้นมาได้รับแรงซื้อกลับ ในขณะที่กลุ่มค้าปลีกยังไม่ฟื้นมากนัก เนื่องจากนโยบายเงินดิจิทัลยังไม่ชัดเจน
แนวโน้มตลาดสัปดาห์หน้าสถานการณ์ตลาดจะขึ้นอยู่ประเด็นความคืบหน้าของสงครามในตะวันออกกลาง และบอนด์ยีลด์ หากบอนด์ยีลด์แกว่งอยู่ในช่วง 4.8-5% คาดว่า SET จะแกว่ง 1,370-1,400 จุด แต่หากทะลุ 5% คาด SET อาจลงไปที่แนวรับ 1,350 จุด และหากต่ำกว่า 4.8% ลงไปอีก SET มีโอกาสขึ้นไปที่ 1,430 จุด แนะนำหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า การเงิน และปิโตรเคมี
ส่วนในประเทศยังไร้ปัจจัยใหม่ แนะติดตามทั้งบอนด์ยีลด์สหรัฐและในประเทศ แต่บอนด์ยีลด์ของไทยไม่ค่อยแกว่งผันผวนจากที่มีกระแสข่าวการลดขนาดแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ทำให้แกว่งเบาลง จึงต้องติดตามความคืบหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตอีกครั้งในสัปดาห์หน้า
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
CPALL (BK:CPALL) มูลค่าการซื้อขาย 2,055.74 ล้านบาท ปิดที่ 55.00 บาท ลดลง 0.25 บาท
KBANK (BK:KBANK) มูลค่าการซื้อขาย 1,997.53 ล้านบาท ปิดที่ 132.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,785.23 ล้านบาท ปิดที่ 100.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.75 บาท
PTT (BK:PTT) มูลค่าการซื้อขาย 1,600.86 ล้านบาท ปิดที่ 33.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,418.50 ล้านบาท ปิดที่ 158.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท