รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดลบ 288.87 จุด หุ้นชิปร่วงฉุดตลาด

เผยแพร่ 16/09/2566 13:25
© Reuters.  ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดลบ 288.87 จุด หุ้นชิปร่วงฉุดตลาด

InfoQuest - ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ (15 ก.ย.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มชิปร่วงลงจากความวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์ที่อ่อนแอของผู้บริโภค ขณะที่การปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐได้ส่งผลกดดันหุ้นอะเมซอน และหุ้นของบริษัทเติบโตรายใหญ่อื่น ๆ

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,618.24 จุด ลดลง 288.87 จุด หรือ -0.83%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,450.32 จุด ลดลง 54.78 จุด หรือ -1.22% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,708.34 จุด ลดลง 217.72 จุด หรือ -1.56%

ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์บวก 0.12% ขณะที่ดัชนี S&P500 ลดลง 0.16% และดัชนี Nasdaq ลดลง 0.39%

หุ้นทั้ง 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 ปรับตัวลง นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศร่วง 1.95% และหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยร่วง 1.88%

หุ้นบริษัทผลิตชิป อาทิ แอพพลายด์ แมทีเรียลส์, แลม รีเสิร์ช และเคแอลเอ คอร์ป ต่างร่วงลงมากกว่า 4% หลังสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าบริษัท TSMC ของไต้หวันได้ขอให้บรรดาผู้ค้ารายใหญ่ของบริษัทชะลอการส่งมอบชิป

หุ้นอินวิเดียร่วงลง 3.7%, หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดีไวซ์ ร่วง 4.8% ขณะที่หุ้นบรอดคอมและหุ้นไมครอน เทคโนโลยี ร่วงลงกว่า 2% ซึ่งถ่วงดัชนีหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ที่ตลาดฟิลาเดลเฟียลงราว 3%

ทั้งนี้ มีความวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์ชิปจากบริษัทผลิตรถยนต์ หลังสหภาพแรงงานยานยนต์สหรัฐ (United Auto Workers หรือ UAW) ได้ทำการหยุดงานประท้วงที่โรงงานต่าง ๆ ของเจเนอรัล มอเตอร์, ฟอร์ด และสเตลแลนติสซึ่งเป็นบริษัทแม่ของไครสเลอร์

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวขึ้นก่อนการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า ขณะที่เฟดเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งและเงินเฟ้อยังคงอยู่เหนือระดับเป้าหมาย

เครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME บ่งชี้ว่า บรรดาเทรดเดอร์คาดว่า มีโอกาส 97% ที่เฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 20 ก.ย.นี้ และคาดว่ามีโอกาส 67% ที่เฟดจะคงดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ย.

หุ้นเติบโตที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น อาทิ หุ้นอะเมซอนและหุ้นไมโครซอฟท์ ร่วงลงมากกว่า 2% และหุ้นเมตา แพลตฟอร์ม ร่วง 3.7%

หุ้นอะโดบี ร่วง 4.2% สู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ หลังบริษัทเปิดเผยโครงการออกตราสารเพื่อการพาณิชย์มูลค่ามากถึง 3 พันล้านดอลลาร์เมื่อวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา หลังการเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3

หุ้นอาร์ม โฮลดิงส์ ร่วง 4.5% ในการซื้อขายเป็นวันที่สอง หลังเปิดการซื้อขายวันแรกได้อย่างแข็งแกร่งในวันพฤหัสบดี (14 ก.ย.) ซึ่งทำให้เกิดความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวของตลาด IPO

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย