InfoQuest - นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวขึ้นสอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวก ตอบรับถ้อยแถลงประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณอาจจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง แต่ก็รับประกันว่าเฟดจะดำเนินนโยบายการเงินอย่างระมัดระวัง
ขณะที่ในประเทศเองยังคงได้แรงหนุนจากปัจจัยการเมือง หลังเริ่มเห็นรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทำให้ตลาดคาดหวังว่าน่าจะสามารถนำขึ้นทูลเกล้าฯ ได้ต้นสัปดาห์หน้า และคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตามมา
อีกทั้งยังได้ปัจจัยหนุนจากการปันผลระหว่างกาลของบริษัทจดทะเบียนไทย โดยเฉพาะในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ คาดว่าจะมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มนี้ ประกอบกับราคาน้ำมันดิบก็รีบาวด์ 2 วันติดต่อกัน ก็น่าจะเป็นแรงหนุนต่อหุ้นกลุ่มพลังงานด้วย
ให้แนวรับไว้ที่ 1,550 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,570-1,575 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (25 ส.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 34,346.90 จุด เพิ่มขึ้น 247.48 จุด หรือ +0.73%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,405.71 จุด เพิ่มขึ้น 29.40 จุด หรือ +0.67% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,590.65 จุด เพิ่มขึ้น 126.67 จุด หรือ +0.94%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดที่ระดับ 31,915.68 จุด เพิ่มขึ้น 291.40 จุด หรือ +0.92%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 18,519.08 จุด เพิ่มขึ้น 562.70 จุด หรือ +3.13% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,219.04 จุด เพิ่มขึ้น 154.97 จุด หรือ 5.05%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (25 ส.ค.66) 1,560.20 จุด เพิ่มขึ้น 2.79 จุด (+0.18%) มูลค่าซื้อขาย 51,602.42 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 339.99 ล้านบาท เมื่อวันที่ 25 ส.ค.66
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 78 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 79.83 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (25 ส.ค.) อยู่ที่ 14.32 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.16 บาท/ดอลลาร์ แนวโน้มอ่อนค่าหลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นดบ.ต่อ รอลุ้นโฉมหน้าครม.ใหม่
- ภาคเอกชนเสนอทบทวนนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท ค้านอัตราเดียวทั่วประเทศ ชี้ลดแรงจูงใจลงทุนในภูมิภาค เสนอเลื่อนไปปรับปีหน้า ห่วงเศรษฐกิจปีนี้ชะลอลง "ทีดีอาร์ไอ" ชี้นโยบายการเมืองขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ เป็นเหรียญ 2 ด้าน ช่วยลดความเหลื่อมล้ำด้านรายได้ แต่ต้นทุนนายจ้างสูงขึ้น "สมาพันธ์แรงงาน" มองปรับเป็น 600 บาทใน 4 ปีเป็นไปได้
- การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ หลังจาก เศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 และการฟอร์มทีม ครม. เศรษฐา 1 เริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ ตามไทม์ไลน์ ขั้นตอนต่างๆจนไปถึงการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา และเริ่ม ปฏิบัติงานได้ราวปลายเดือน ก.ย.66
- โผ ครม.เศรษฐา 1 ลงตัว ขณะที่ "กลุ่มอีสานเพื่อไทย" ฮึ่ม! ไม่พอใจหลังประเคน ก.เกษตรฯ ให้ พปชร.-แกนนำภาค-สุทินวืดเสมา 1 จ่อถกเดือดที่ประชุม พท.อังคารนี้ "อีโต้-ธีระชัย" ยอมรับเสียความรู้สึก ขนชาวไร่อ้อยพันคนให้กำลังใจ พท.สู้ ด้อมส้ม "พิธา" หวัง พท.ผลักดันปฏิรูปกองทัพ "สว.จเด็จ" เตือน "เศรษฐา" ระวังปม "น.ช.ทักษิณ" ได้รับอภิสิทธิ์ชนจะเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวทำประชาชนทนไม่ได้ลุกฮือประท้วง "สมชาย" แนะดูบทเรียนประวัติศาสตร์สอนไม่ให้เดินพลาดซ้ำรอย "พิชาย" ตั้งฉายา "รัฐบาลอึ่งไข่" ระวังสูญพันธุ์ได้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า "นิด้าโพล" เผย ปชช.ไม่เห็นด้วยจัดตั้งรัฐบาลสลายความขัดแย้ง
หุ้นเด่นวันนี้
- CPAXT (กรุงศรี) แนะนำ "ซื้อ" เป้า IAA Consensus 40 บาท แนวโน้มกำไรไตรมาส 3/66 ดีขึ้นจากดอกเบี้ยจ่ายและภาระค่าไฟฟ้าต่อหน่วยลดลง, มาตรการ กระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ของรัฐบาลใหม่จะช่วยเพิ่มยอดขายและรายได้ให้กับ CPAXT อย่างมีนัยสำคัญ
- AH (ลิเบอเรเตอร์) แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 45 บาท คาดแนวโน้มครึ่งปีหลังผลงานจะปรับขึ้นทั้ง h-h และ y-y แรงหนุนจากธุรกิจหลักเข้า High Season และกำไรบริษัทร่วมเด่น ด้านภาพอุตสาหกรรมรถยนต์พบ เดือน ก.ค. ยอดผลิตรถ +4.72%y-y, +2.85%m-m จากการส่งออกยานยนต์ที่ดีขึ้น และล่าสุดมีแรงหนุนจากข่าว ISUZU ประกาศแผนการขายรถปิคอัพ EV ในไทยในช่วงปี 68 ขณะที่ Valuation AH ปัจจุบันยังซื้อขายเพียง PE 6.7 เท่า และคาดปันผลที่ระดับ 4.7% ต่อปี
- CPN (ฟินันเซียไซรัส) แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 82 บาท คงมุมมองเชิงบวกทิศทางกำไรครึ่งปีหลังทุกธุรกิจกลับมาปกติตั้งแต่ไตรมาส 1/66 บริษัทยังมีแผนขยายศูนย์การค้า ออฟฟิศ โรงแรมและอสังหาฯใน 5 ปี (ปี 66-70) ด้วยเงินลงทุน 1.35 แสนลบ.และตั้งเป้ารายได้โตเฉลี่ย 14-16% ต่อปีช่วงปี 66-70 ประมาณการของเรา Conservative กว่ามากโดยคาดรายได้โตเฉลี่ย 8% CAGR ปี 66-67 คาดกำไร new high ที่ 1.3 หมื่นลบ. +18% y-y และ 1.4 หมื่นลบ. +9% y-y ตามลำดับ แต่ราคาหุ้นยังต่ำกว่าจุดสูงสุดในปี 60