3 ปัจจัยที่ต้องจับตา: ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค, สัญญาอนุพันธ์, Box Office 

© Reuters.

โดย Liz Moyer

Investing.com -- หุ้นสหรัฐฯ พุ่งขึ้นในการซื้อขายช่วงท้ายหลังจากที่กลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ได้รวมตัวกันจัดตั้งเพื่อหนุน First Republic Bank (NYSE:FRC) ที่หุ้นร่วงหนักในช่วงไม่กี่วันหลังการจากที่ SVB ปิดตัวลง

ดาวโจนส์ และ S&P 500 เพิ่มขึ้นมากกว่า 1% ในอีกไม่กี่นาทีก่อนปิดการซื้อขาย ในขณะที่ Nasdaq เพิ่มขึ้นมากกว่า 2.5%

การปิดตัวลงของ SVB กระเพื่อมไปทั่วภาคการธนาคารทำให้หุ้นของธนาคารในภูมิภาคอ่อนแอลง เช่น First Republic โดยกลุ่มธนาคารที่นำโดย JPMorgan (NYSE:JPM) Citigroup (NYSE:C) Bank of America (NYSE:BAC) และ Wells Fargo (NYSE :WFC) กล่าวว่าได้ฝากเงินจำนวน 30,000 ล้านดอลลาร์ที่ไม่มีประกันในธนาคาร First Republic เพื่อเป็นการแสดงความมั่นใจ

การหยุดชะงักจาก SVB และการล้มของธนาคาร Signature ในสุดสัปดาห์เดียวกันนั้นน่าจะส่งผลต่อการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐฯ เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า เนื่องจากเทรดเดอร์ฟิวเจอร์สจำนวนมากในขณะนี้ คาดว่า อัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มที่ 25 จุดพื้นฐาน โดยเพียงไม่กี่วันก่อนวิกฤตของ SVB ตลาดยังตั้งการคาดการณ์ว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 50 จุดพื้นฐาน

ต่อไปนี้คือสามปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดในวันนี้

1. ความเชื่อมั่นผู้บริโภค

ตัวเลข ความเชื่อมั่นผู้บริโภค ของมหาวิทยาลัยมิชิแกนสำหรับเดือนมีนาคมจะเปิดเผยในวันนี้ เวลา 10:00 ET (14:00 GMT) นักวิเคราะห์คาดว่าจะยังคงเหมือนเดิมกับตัวเลขครั้งก่อนที่ 67

2. การบรรจบกันรายไตรมาส

วันศุกร์เป็นวันแรกในสี่วันในรอบปีที่สัญญาอนุพันธ์ 3 ฉบับหมดอายุพร้อมกัน รวมถึงออปชั่น ดัชนีออปชั่น และดัชนีฟิวเจอร์ส เป็นวันที่ถูกเรียกว่า witching day ที่เรียกว่าสามารถเพิ่มความผันผวนให้กับตลาดหุ้นได้

3. ภาคต่อของหนังซูเปอร์ฮีโร่

ซูเปอร์ฮีโร่ภาคต่อ Shazam! Fury of the Gods ของ Warner Bros' (NASDAQ:WBD) มีกำหนดเปิดตัวในสุดสัปดาห์นี้โดยคาดหมายบ็อกซ์ออฟฟิศล่วงหน้าประมาณ 35 ล้านดอลลาร์สำหรับการเปิดตัวในช่วงสุดสัปดาห์ คาดว่ากำลังจะแซงหน้า Ant-Man and the Wasp: Quantumonia ของ Walt Disney Company (NYSE:DIS) ซึ่งทำเงินไปแล้วกว่า 400 ล้านเหรียญทั่วโลกตั้งแต่เปิดตัวเมื่อเดือนที่แล้ว