รัสเซียยิงขีปนาวุธใส่เคียฟ และเมืองอื่น หลังถอนตัวจากข้อตกลงธัญพืช

Investing.com – ทางการยูเครนรายงานว่ารัสเซียโจมตีด้วยขีปนาวุธทั่วประเทศ หลังจากที่มอสโกกล่าวโทษกรุงเคียฟสำหรับการโจมตีกองเรือทะเลดำและถอนตัวจากข้อตกลงที่จะอนุญาตให้ยูเครนขนส่งธัญพืชได้

รัสเซียและยูเครนต่างก็เป็นผู้ส่งออกอาหารรายใหญ่ที่สุดของโลก และการปิดล้อมการขนส่งธัญพืชของยูเครนจากรัสเซียทำให้เกิดวิกฤตอาหารโลกเมื่อต้นปีนี้ ภายหลังการประกาศของรัสเซียที่จะยุติความร่วมมือการส่งออกธัญพืช สัญญาซื้อขายล่วงหน้าข้าวสาลีในชิคาโกพุ่งขึ้นมากกว่า 5% ในวันจันทร์

โอเล็ก นิโคเลนโก โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่าขีปนาวุธได้โจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานในเคียฟและเมืองอื่น ๆ ทำให้ไฟฟ้าดับและไม่มีน้ำใช้

มอสโกไม่ได้ตอบโต้โดยทันทีแต่ภายหลังกล่าวหาว่าเคียฟได้โจมตีกองเรือในท่าเรือทะเลดำไครเมียพร้อมโดรน 16 ลำในวันเสาร์ โดยเมื่อต้นเดือนนี้รัสเซียได้เปิดฉากการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เริ่มสงครามกับเคียฟและเมืองอื่น ๆ ของยูเครน โดยระบุว่าเป็นการตอบโต้การโจมตีสะพานของตนไปยังแหลมไครเมีย

ยูเครนไม่ได้ยืนยันหรือปฏิเสธว่าอยู่เบื้องหลังการโจมตีกองเรือรัสเซีย ซึ่งเป็นนโยบายทั่วไปสำหรับเหตุการณ์ในไครเมีย

ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนกล่าวหารัสเซียว่า “ทำให้โลกอดอยากหิวโหย” เพราะการถอนตัวจากข้อตกลงการส่งออกอาหารที่เจรจาโดยสหประชาชาติและตุรกี

ในบรรดาเรือที่จอดอยู่นั้นมีเรือลำหนึ่งบรรทุกข้าวสาลีหลายหมื่นตัน ซึ่งมีโครงการอาหารโลกของสหประชาชาติเช่าเหมาลำไว้เพื่อรับมือเหตุฉุกเฉินในแห่งแอฟริกา เซเลนสกี กล่าว

กระทรวงโครงสร้างพื้นฐานของยูเครนกล่าวว่าเรือทั้งหมด 218 ลำถูก "ปิดกั้นอย่างไม่มีทางเลือก"

ข้อตกลงธัญพืชกำหนดให้รัสเซียและยูเครนทำงานร่วมกันในแง่การตรวจสอบและการขนส่งเรือผ่านทะเลดำ โดยมีสหประชาชาติและตุรกีทำหน้าที่เป็นผู้ไกล่เกลี่ย

ไม่มีการเคลื่อนไหวของเรือลำไหนในวันอาทิตย์ องค์การสหประชาชาติ ระบุว่า ได้ตกลงกับตุรกีและยูเครนในแผนการขนส่งสำหรับเรือ 16 ลำสำหรับเคลื่อนย้ายธัญพืชในทะเลดำในวันจันทร์นี้ โดยแบ่งเป็น 12 ลำสำหรับขาออกและ 4 ขาเข้า แต่ไม่มีการตอบสนองทันทีจากรัสเซีย ตามรายงานของรอยเตอร์ส

องค์การสหประชาชาติกล่าวว่าเจ้าหน้าที่ของรัสเซียได้รับแจ้งเกี่ยวกับแผนดังกล่าวพร้อมกับความตั้งใจที่จะตรวจสอบเรือขาออก 40 ลำในวันจันทร์และตั้งข้อสังเกตว่า "ผู้เข้าร่วมทั้งหมดประสานงานกับหน่วยงานทางทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าเรือพาณิชย์จะผ่านได้อย่างปลอดภัย" ภายใต้ข้อตกลง

ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ กล่าวในวันเสาร์ว่า การเคลื่อนไหวของรัสเซีย “เป็นเรื่องอุกอาจอย่างยิ่ง” และกล่าวว่า จะทำให้ความอดอยากเพิ่มขึ้น แอนโทนี บลินเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวหามอสโกว่าใช้อาหารเป็นอาวุธ

เมื่อวันอาทิตย์ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำกรุงวอชิงตัน โต้กลับว่าการตอบสนองของสหรัฐฯ นั้น “อุกอาจ” และให้การยืนยันว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ