โดย วณิชชา สุมานัส
Investing.com - ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 32.46 บาทต่อดอลลาร์ แบงก์ชาติ' ชี้ 3 ปัจจัยที่ส่งผลให้ 'ค่าเงินบาท' พลิกกลับมาแข็งค่าในช่วงนี้
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักวิเคราะห์ประจำห้องค้าเงิน ธนาคารกรุงไทย คาดว่า ช่วงนี้มีเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าในระยะสั้น แกว่งตัวในกรอบ Sideways เนื่องจากบรรดาผู้เล่นต่างรอปัจจัยใหม่ ๆ โดยเฉพาะแนวโน้มสถานการณ์การระบาดว่าจะดีขึ้น หรือ แย่ลง หลังการผ่อนคลายล็ออกดาวน์ ซึ่งเชื่อว่านักลงทุนต่างชาติต่างรอดูทิศทางการระบาดก่อนที่จะปรับสถานะถือครองสินทรัพย์ไทยต่อไป
ทางด้าน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ชี้ว่า ค่าเงินบาทปีนี้ผันผวนหนัก หลังอ่อนค่าแรงกว่า 10% แตะระดับ 33.48 บาทต่อดอลลาร์ เมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา จากนั้นช่วงปลายเดือนสิงหาคม เงินบาทเริ่มเปลี่ยนทิศ พลิกกลับมาแข็งค่าเกือบหลุด 32 บาทต่อดอลลาร์ โดยปิดการซื้อขายล่าสุด 3 กันยายนที่ระดับ 32.58 บาทต่อดอลลาร์
นอกจากนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังชี้อีกว่า เงินบาทแข็งค่าในช่วงนี้เกิดจาก 3 ปัจจัย ได้แก่ นักลงทุนเพิ่มการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงในตลาดการเงินโลก หลังจากประธาน Fed กล่าวในสัมมนาวิชาการที่ Jackson Hole ว่า การทำ QE tapering จะเกิดขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป และไม่เร่งรีบในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
ปัจจัยถัดมาคือ การผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อเริ่มปรับลดลงและมีการเร่งฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น โดยการผ่อนคลายให้มีกิจกรรมเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นจะเป็นปัจจัยบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจต่อไป
และสุดท้าย นักลงทุนต่างชาติกลับเข้าซื้อหลักทรัพย์ไทย โดยเดือนส.ค. นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิในหุ้นไทย 5.4 พันล้านบาท และพันธบัตรไทย 4.5 หมื่นล้านบาท
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ชี้เพิ่มเติมว่า การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทยังคงมีความผันผวนไม่แน่นอนของปัจจัยทั้งในและต่างประเทศ ผู้ประกอบการจึงควรบริหารความเสี่ยงค่าเงินอย่างสม่ำเสมอ