Investing.com - เงินยูโรแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ลดอัตราดอกเบี้ยลงจนติดลบ และประกาศว่าจะนำนโยบายแบบผ่อนคลายเชิงปริมาณกลับมาใช้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป
คู่ EUR/USD มีราคาซื้อขายอยู่ที่ 1.1064 เมื่อเวลา 23:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (03:30 GMT) ขยับขึ้น 0.1%
เมื่อคืนนี้ ECB ได้ประกาศนโยบายแบบผ่อนคลายเชิงปริมาณด้วยการซื้อพันธบัตรเป็นมูลค่า 2 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน และได้ลดอัตราดอกเบี้ยลงไป 10 จุด เท่ากับ -0.5% ตามการคาดการณ์ของตลาด
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ จึงใช้โอกาสนี้ในการตำหนิเฟดอีกครั้งที่ไม่ยอมช่วยเกื้อหนุนเศรษฐกิจสหรัฐฯ
ทรัมป์ระบุไว้ใน Twitter ว่า "พวกเขาพยายามแล้วก็ทำได้สำเร็จ ในการลดค่าเงินยูโรเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าเสียเหลือเกิน ทำให้เกิดผลเสียต่อการส่งออกของสหรัฐฯ... แล้วเฟดก็เอาแต่นั่งรอ แล้วก็นั่งรอ แล้วก็นั่งรอ พวกเขาได้รับเงินจากการกู้ยืม แต่เรากลับต้องจ่ายดอกเบี้ย!"
ทางด้านเงินปอนด์ก็ได้รับแรงหนุนเมื่อคืนนี้จากรายงานข่าวที่เผยว่า สหภาพยุโรปกำลังเตรียมที่จะอนุมัติการเลื่อนเวลาเส้นตาย Brexit อีกครั้งเพื่อป้องกันไม่ให้สหราชอาณาจักรถอนตัวโดยไม่มีข้อตกลง
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร นายบอริส จอห์นสัน ได้ยืนยันหลายครั้งแล้วว่า เขาไม่ต้องการที่จะขอเลื่อนเส้นตาย Brexit จากสหภาพยุโรปอีก แม้จะมีข้อกฎหมายที่เสนอโดยคณะส.ส.เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิด Brexit แบบข้อตกลงก็ตาม