💎 ดูบริษัทต่าง ๆ ที่มีสุขภาพทางการเงินที่ดีที่สุดในตลาดปัจจุบันเริ่มต้นเลย

ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 33.09/10 อ่อนค่า รีบาวน์ระยะสั้น คาดกรอบพรุ่งนี้ 32.90-33.20

เผยแพร่ 18/01/2566 00:44
© Reuters.  ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 33.09/10 อ่อนค่า รีบาวน์ระยะสั้น คาดกรอบพรุ่งนี้ 32.90-33.20
SETI
-

InfoQuest - นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 33.09/10 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า จากเปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 33.01 บาท/ดอลลาร์ เย็นนี้เงินบาทปรับอ่อนค่าจากช่วงเช้า โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 33.00 - 33.16 บาท/ดอลลาร์ แต่ยังไม่มีปัจจัยใหม่ เนื่องจากตลาดเงินและตลาดหุ้นฝั่งสหรัฐฯ ปิดทำการเนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ ด้านสกุลเงินใน ภูมิภาคยังทรงตัวจากช่วงเช้า "วันนี้เงินบาทอ่อนค่าจากเมื่อวาน วิ่งในกรอบ อาจเป็นการรีบาวด์ระยะสั้น หลังจากที่แข็งค่าลงมาแรง" นักบริหาร เงิน กล่าว สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่จะเปิดเผยคืนนี้ คือ ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนม.ค.จากเฟดนิวยอร์ก นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 32.90 - 33.20 บาท/ดอลลาร์

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 128.73/78 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้านี้ที่ระดับ 128.82 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0816/0820 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้านี้ที่ระดับ 1.0819 ดอลลาร์/ยูโร - ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,681.04 จุด ลดลง 3.82 จุด (-0.23%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 54,484 ล้านบาท - สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 825.17 ลบ. (SET+MAI) - ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติขยายเวลาลดภาษีสรรพสามิตดีเซลลิตรละ 5 บาทออกไปอีก 4 เดือน สิ้นสุด 20 พ.ค. 66 เพื่อตรึงราคาไม่ให้เกินลิตรละ 35 บาทต่อไป โดยคาดว่าภาครัฐจะสูญเสียรายได้ราวเดือนละ 1 หมื่นล้านบาท - ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม เดือนธ.ค. 65 อยู่ที่ระดับ 92.6 ลดลงจากเดือนพ.ย. ซึ่งอยู่ที่ระดับ 93.5 โดยเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 7 เดือน จากปัจจัยลบสำคัญ ได้แก่ ภาคการผลิตชะลอลง เนื่องจากเดือนธ.ค. มีวันทำงานน้อย และมีวันหยุดต่อเนื่องในช่วงเทศกาลปีใหม่, ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นโดยเฉพาะค่าไฟฟ้า, การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคาร พาณิชย์, ปัญหาเงินเฟ้อที่บั่นทอนกำลังซื้อในประเทศ และการส่งออกที่มีสัญญาณชะลอตัว - สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ชี้แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2566 มีทิศทางปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น โดยกิจกรรมต่างๆ กลับเข้าสู่ภาวะปกติ หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ทำให้ การขยายตัวของอุปสงค์ในประเทศ ทั้งการบริโภค และการท่องเที่ยวกลับมามีสัญญาณที่ดีขึ้น ขณะที่การส่งออกสินค้า แม้จะมีแนวโน้ม ชะลอตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจโลก แต่การใช้ประโยชน์จากกรอบความตกลงการค้าเสรี (FTA) ควบคู่กับการที่ภาครัฐเร่งเจรจา ความตกลงการค้าเสรี เพื่อเปิดตลาดส่งออกใหม่ๆ จะช่วยประคับประคองการส่งออกของไทยให้ยังทรงตัวต่อไปได้ - สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ปี 2565 ของจีนขยายตัว 3% ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าอาจจะขยายตัว 2.8% อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจจีนในปี 2565 ชะลอตัวลงอย่างมากเมื่อเทียบกับปี 2564 ที่มีการขยายตัว 8.4% - สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เผยยอดค้าปลีกเดือนธ.ค. 2565 ปรับตัวลง 1.8% ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาด ว่าอาจร่วงลง 8.6% และตลอดปี 2565 ยอดค้าปลีกปรับตัวลง 0.2% - จำนวนประชากรจีนลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ทศวรรษในปี 2565 โดยอัตราการเกิดของประเทศร่วงสู่ระดับต่ำ สุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้เกิดความกังวลว่า วิกฤตด้านประชากรมีความเสี่ยงที่จะกระทบต่อเศรษฐกิจจีนที่เติบโตในอัตราที่ชะลอ ตัวลงอยู่แล้ว - ไพรซ์วอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส (PwC) เปิดเผยผลสำรวจความเห็นของบรรดาประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ทั่ว โลก พบว่า ซีอีโอส่วนใหญ่ (73%) ที่เข้าร่วมการสำรวจในครั้งนี้คาดการณ์ว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจโลก จะชะลอตัวลงในปี 2566 ซึ่งถือเป็นมุมมองต่อเศรษฐกิจโลกที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ PwC เริ่มทำผลสำรวจในปี 2554 - กรรมการจัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เผยว่า ช่วงเวลาที่ IMF ต้องลดคาดการณ์การเติบโต ทางเศรษฐกิจโลกเป็นประจำเช่นที่แล้วมานั้น ใกล้จะถึงจุดสิ้นสุดแล้ว - หน่วยงานกำกับดูแลและสมาคมตลาดตราสารหนี้หลายแห่ง เปิดเผยว่า ตลาดพันธบัตรเอเชียไม่รวมจีน (Asia ex-China bonds) เผชิญกระแสเม็ดเงินต่างชาติไหลออกสุทธิเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปีในปี 2565 หลังธนาคารกลางหลาย ประเทศเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุก เพื่อสกัดเงินเฟ้อ

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย