วันอังคารที่ 16 สงหาคม ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Fed ออกจดหมายให้ข้อมูลสำหรับผู้ให้บริการธนาคารในสหรัฐฯ ที่กำลังมีแผนหรือที่ได้เข้าลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี
ในจดหมายระบุว่าคริปโตเคอร์เรนซีนั้น “แสดงให้เห็นถึงโอกาสใหม่” สำหรับกับกลุ่มธุรกิจธนาคาร รวมไปถึงลูกค้า และระบบการเงินโดยรวม แต่ทั้งนี้กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตก็ยังมีความเสี่ยงทั้งต่อลูกค้า และระบบทางการเงินเช่นกัน พร้อมกับยกตัวอย่าง 4 ด้านที่ได้รับผลกระทบ
ด้านเทคโนโลยี
ในจดหมายระบุว่าสินทรัพย์คริปโตนั้นอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงด้าน ‘ความปลอดภัยทางไซเบอร์’ และอำนาจการควบคุมเครือข่าย โดยเฉพาะในกลุ่มของเครือข่ายที่เป็นลักษณะเครือข่ายเปิด หรือเครือข่ายแบบ Permissionless เป็นต้น
ด้านการฟอกเงิน และอาชญากรรมทางการเงิน
ในด้านของการฟอกเงินและอาชญากรรม ก็พบว่าคริปโตเคอร์เรนซีนั้นสามารถถูกใช้เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับการฟอกเงิน และสำหรับทำธุรกรรมที่ผิดกฎหมายได้เช่นกัน รวมไปถึงคริปโตบางประเภทยังถูกสร้างขึ้นมาให้ไม่สามารถตรวจจับหรือติดตามได้ ทำให้เกิดปัญหาเมื่อจำเป็นต้นติดตามเพื่อหาตัวผู้เกี่ยวข้องกับธุรกรรม
การคุ้มครองผู้บริโภค และกฎหมาย
แน่นอนว่าคริปโตนั้นมีความเสี่ยงที่สูง จากราคาที่ผันผวน, การหลอกลวง, ข้อมูลเท็จ, การขโมย และอื่นๆ อีกมากมาย รวมไปถึงจากการที่คริปโตยังไม่มีกฎหมายครอบคลุมอย่างชัดเจน ดังนั้นผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องศึกษากฎหมายอย่างละเอียดเพื่อให้ครอบคลุมทุกความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น
ด้านระบบการเงิน
ในด้านการเงิน จดหมายเน้นไปในเรื่องของคริปโตประเภท ‘Stablecoin’ โดยระบุว่าถ้าหาก Stablecoin ถูกนำใช้ในวงกว้าง อาจจะก่อความเสี่ยงต่อความมั่นคงทางการเงินโดยรวมได้ ทั้งจากราคาที่ไม่เสถียรมากพอ และการเข้ามาแทรกแซงระบบการชำระเงินหลัก
Fed พร้อมจับตาคริปโตใกล้ชิด!
และทิ้งท้ายว่าให้ธนาคารที่จะเข้ามาสู่ธุรกิจนี้ตรวจสอบให้ดี ว่ากิจกรรมดังกล่าวที่เกี่ยวข้องกับคริปโตสามารถดำเนินการได้ตามกฎหมายหรือไม่ และระบุว่า Fed จะจับตาดูการการพัฒนาของอุตสาหกรรมคริปโต และการเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องของคริปโตกับกลุ่มธุรกิจธนาคารอย่างใกล้ชิด