โดย Zhang Mengying
Investing.com – ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเช้าวันพฤหัสบดีในเอเชีย แม้ว่าจะมีการคาดการณ์ว่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงในช่วงเวลาสั้น ๆ อ้างอิงรายงานจากการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐในเดือนมิถุนายน
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ติดตามค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับกลุ่มสกุลเงินอื่น ๆ ลดลง 0.23% เป็น 106.85 เมื่อเวลา 23:56 น. ET (3:56 น. GMT)
USD/JPY ขยับลง 0.13% เป็น 135.76 เงินเยนอ่อนค่าลงเกือบ 15% ในปีนี้ และมีแนวโน้มว่าจะอ่อนค่าลงกว่า 130 ต่อดอลลาร์ในช่วง 6 เดือนข้างหน้า เนื่องจากธนาคารกลางญี่ปุ่นยังคงนโยบายการเงินผ่อนคลายเป็นพิเศษไว้
AUD/USD เพิ่มขึ้น 0.61% เป็น 0.6816 และ NZD/USD เพิ่มขึ้น 0.54% เป็น 0.6180
USD/CNY ขยับลง 0.09% เป็น 6.7022 ขณะที่ GBP/USD ขยับขึ้น 0.12% เป็น 1.1945
ค่าเงินบาท USD/THB ขยับขึ้นยืนเหนือ 36.25 ในช่วงเช้า ก่อนปรับตัวลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 36.18 บาทต่อดอลลาร์
“ตอนนี้ ผมรู้สึกว่าคนทั้งโลกเกลียดเงินปอนด์สเตอร์ลิง และผมเข้าใจได้ว่าทำไมธนาคารกลางอังกฤษอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก Brexit มีปัญหาที่ซับซ้อน และเราต้องเผชิญกับแรงกดดันมากมายในสหราชอาณาจักร” Foley ของ Rabobank กล่าว
“ผมไม่คิดว่านักลงทุนจะกลับสู่สกุลเงินปอนด์สเตอร์ลิงอีกพักใหญ่ ๆ จนกว่าพวกเขาจะมองเห็นแง่ดีเกี่ยวกับการเติบโต”
ส่วน รายงานการประชุมในเดือนมิถุนายนของเฟด ได้แสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ของนโยบายการเงินที่ "เข้มงวดยิ่งขึ้น" เพื่อป้องกันเงินเฟ้อในระยะยาว ขณะนี้นักลงทุนได้เชื่อว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 75 จุดในเดือนกรกฎาคมจากเฟด
ท่ามกลางการคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นักวิเคราะห์บางคนคิดว่าค่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลงในอีก 12 เดือนข้างหน้า แม้ว่าเงินยูโรจะซื้อขายที่ระดับต่ำสุดในรอบสองทศวรรษก็ตาม
“ในท้ายที่สุด คนที่บอกว่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลงเพราะตลาดไม่เชื่อว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งจนลืมไปว่าเงินดอลลาร์ยังเป็นสกุลเงินปลอดภัย” Jane Foley หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ FX ของ Rabobank กล่าวกับรอยเตอร์ส