⏳ โอกาสสุดท้าย! ประหยัดสุดคุ้มด้วยส่วนลดสูงสุด 60% InvestingProรับส่วนลด

เงินบาททรงตัวเปิด 32.72 จับตาการเมืองไทยกดบาทอ่อน

เผยแพร่ 10/09/2564 14:28
อัพเดท 10/09/2564 14:29
© Reuters
GBP/USD
-
USD/THB
-
US10YT=X
-
DXY
-

โดย วณิชชา สุมานัส

Investing.com - เงินบาทไทยวันนี้ (10 กันยายน) เปิดตลาดเช้าที่ 32.72 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และไม่เปลี่ยนแปลงมากระหว่างวัน นักวิเคราะห์มองว่า ในส่วนของภาพทางเทคนิครายสัปดาห์แล้ว เงินบาทแนวโน้มเริ่มกลับมาเป็นบวก จะอยู่ในช่วงพักตัวช่วงสั้น ๆ และหากมองภาพรายวัน เงินบาทยังสามารถพลิกกลับขึ้นมาได้หลังจากทำจุดต่ำสุดที่ 32 บาทต่อดอลลาร์ และเด้งกลับขึ้นมา แต่ยังไม่ผ่านกลุ่มค่าเฉลี่ยที่กลับมาในตัวเชิงลบ 

เงินบาทวันนี้ มองว่าจะแกว่งอยู่ในกรอบ 32.6-32.7 บาทต่อดอลลาร์ โดยในช่วงที่ผ่านมา เงินบาทมีการชะลอการแข็งค่า เนื่องจาก ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ มีการพลิกกลับมาภายใต้การคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางหลัก ๆ โดยเฉพาะในฝั่งของกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว (Developed Countries) จะมีการส่งสัญญาณทางเศรษฐกิจต่าง ๆ เช่น ธนาคารกลางของสหรัฐ (Fed) มีประเด็นเรื่องการปรับลดการอัดฉีดสภาพคล่อง (QE) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่กดดันตลาดเงินสหรัฐ โดยช่วงนี้จะเห็นเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเงินสกุลโลกอื่น ๆ โดยล่าสุดดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) ปรับตัวลดลงใกล้แตะ 92.50 จุด ซึ่งปรับตัวลดลงต่อเนื่องตามการให้ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี 

นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังถูกกดดันจากการที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้น สาเหตุหลักมาจากการที่นักลงทุนคาดการณ์กันว่า การประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ในวันที่ 23 กันยายนที่จะถึงนี้ อาจมีการส่งสัญญาณการทะยอยปรับลดการอัดฉีดสภาพคล่อง (QE) รวมถึงการใช้นโยบายทางการอื่น ๆ ที่เข้มงานขึ้นด้วย 

ด้วยปัจจัยเหล่านี้ จะเห็นว่า ช่วงนี้ ค่าเงินบาทมีพลิกกลับมาอ่อนค่าเล็กน้อย ซึ่งนับแบบในระยะสั้น ๆ จะเห็นว่ามีการชะลอตัวหน่อย จาก 32.7 ลงมา 32.67 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งก็ไม่ได้เยอะมาก ระหว่างวัน เงินบาทมีแนวโน้มผันผวนในฝั่งอ่อนค่าได้มากกว่า จากการที่นักลงทุนต่างชาติทะยอยเทขายสินทรัพย์ไทยเพื่อทำกำไร โดยตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา จะเห็นนักลงทุนต่างชาติพากันเทขยายกำไรหุ้นและพันธบัตรไทยมากขึ้น  

สำหรับทิศทางของเงินบาท มองว่า บาทก็ยังจะแกว่งอยู่ในกรอบ 32.5-33.5 บาทต่อดอลลาร์ และมีความเป็นไปได้มากที่เงินบาทจะค่อนข้างไปทางอ่อนค่าได้อีก เนื่องจาก ตอนนี้ มีการเก็งกำไรในส่วนของการเปิดเมืองมาก รวมถึงเก็งกำไรในเรื่องของปัจจัยบวกไว้มากเช่นกัน  

โดยปัจจัยที่จะผลต่อเงินบาทในช่วงนี้คือสถานการณ์ทางการเมืองเริ่มไม่นิ่ง หลังจากที่เมื่อคืนที่ผ่านมา มีการประกาศราชกิจจานุเบกษาให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งจุดนี้เป็นการส่งสัญญาณอีกว่า ยังจะมีปัญอื่น ๆ อีกที่ต้องให้นักลงทุนต้องติดตามเพิ่มเติม เช่น จะมีพรรคการเมืองใหม่เกิดขึ้นหรือไม่ หรือจะมีคลื่นใต้นำ้อื่น ๆ หรือไม่ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลให้ค่าเงินบาทมีการพลิกกลับมาอ่อนได้หากนักลงทุนต่างชาติมองสถานการณ์บ้างเมือง ซึ่งมีทั้งการชุมนุมทางการเมืองอยู่แล้ว ยังมามีนักการเมืองในพรรคเดียวกันแถลงลาออกอีก เหล่านี้ก็จะเป็นปัจจัยที่มีผลทำให้ค่าเงินบาทมาอ่อนค่าลงได้อีก 

ส่วนปัจจัยอื่นที่จะทำให้ค่าเงินบาทมีเม็ดเงินลงทุนเข้ามาในตลาดเงินได้ ก็จะเป็นเรื่องของ จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ ซึ่งจากสถิติที่ผ่านมาจะพบว่า ถ้าจำนวนผู้ติดเชื้อลดลง เงินบาทจะแข็ง ซึ่งทั้ง 2 ประเด็นนี้มีความสัมพันธ์กันถึง 90% และอีกปัจจัยที่ต้องจับตาคือ ธนาคารกลางยุโรปหากตัวสินใจทำ QE ได้เร็วกว่าอเมริกา เนื่องจากค่าเงินยูโรอยู่ในตะกร้าของ Dollar Index ค่อนข้างมากก็จะทำให้ Dollar Index อ่อนค่า เป็นผลให้เงินบาทต่อดอลลาร์อาจจะกลับมาแข็งได้

และนอกจากนี้ ปัจจุบัน จะเห็นว่า ผู้นำเข้าต่างทะยอยเข้ามาซื้อดอลลาร์เพิ่มขึ้นเพื่อให้ได้เงินบาทไทยในปริมาณที่ต้องการ หากเงินบาทกลับมาแข็งค่าใกล้ระดับที่ต้องการ (Buy on Dip) 

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย