InfoQuest - ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (18 ธ.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 1% แตะที่ระดับ 108.024
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 154.66 เยน จากระดับ 153.34 เยนในวันอังคาร (17 ธ.ค.), แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9003 ฟรังก์ จากระดับ 0.8924 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.4417 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.4310 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0376 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0488 ดอลลาร์ในวันอังคาร ส่วนเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2593 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2711 ดอลลาร์
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลง 0.25% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้ตามคาด ซึ่งเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 3 ในปีนี้
ส่วนในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) นั้น เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2568 ลงเพียง 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวม 0.50% จากเดิมที่ส่งสัญญาณในเดือนก.ย.ว่าจะปรับลดดอกเบี้ย 4 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวม 1.00% ในปี 2568
นอกจากนี้ เฟดได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าเฟดจะชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า เมื่อพิจารณาจากภาวะเศรษฐกิจและตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง รวมทั้งเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงในช่วงที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เฟดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปี 2567, 2568, 2569 และ 2570 ที่ระดับ 2.5%, 2.1%, 2.0% และ 1.9% ตามลำดับ เพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาดการณ์ในเดือนก.ย.ว่าจะขยายตัว 2.0% ทุกปี
ทางด้านเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดกล่าวในระหว่างการแถลงข่าวว่า เฟดได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา แต่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในอนาคตนั้น จะเป็นไปอย่างระมัดระวังและจะขึ้นอยู่กับว่าเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูงหรือไม่ ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าเฟดเริ่มตระหนักถึงความเป็นไปได้ที่ภาวะเศรษฐกิจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ภายใต้การบริหารของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี พุ่งขึ้นแตะระดับ 4.51% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค. หลังจากเฟดออกแถลงการณ์ดังกล่าว