🏃 คว้าข้อเสนอ Black Friday ก่อนใคร รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ตอนนี้!รับส่วนลด

ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 32.60 แข็งค่าจากช่วงเช้าขานรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน จับตาข้อมูลศก.สหรัฐคืนนี้

เผยแพร่ 27/09/2567 00:37
© Reuters.  ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 32.60 แข็งค่าจากช่วงเช้าขานรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน จับตาข้อมูลศก.สหรัฐคืนนี้
USD/THB
-
SETI
-

InfoQuest - นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 32.60 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจาก เปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 32.74 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามค่าเงินภูมิภาค เนื่องจากตลาดมีความหวังว่าเศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัวหลังมี ข่าวทางการจีนเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ทั้งตลาดอสังหาริมทรัพย์ ตลาดหุ้น และเพิ่มการบริโภคภายในประเทศ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 32.58 - 32.74 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตร 3.2 พันล้านบาท "หลังเปิดตลาดบาททำท่าจะอ่อนค่า แต่กลับมาแข็งค่าตามภูมิภาคจากข่าวกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน จนบาทเกือบหลุดลงไปทำนิ วโลว์ในรอบ 30 เดือน" นักบริหารเงิน กล่าว นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 32.55 - 32.70 บาท/ดอลลาร์ โดยคืนนี้สหรัฐฯ จะประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 2 และยอดขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์ รวมทั้งถ้อยแถลงของ เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยน อยู่ที่ระดับ 144.84 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 144.54 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1147 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.1137 ดอลลาร์/ยูโร - ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,455.03 จุด ลดลง 6.55 จุด, -0.45% มูลค่าซื้อขาย 56,090.14 ล้านบาท - สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,386.69 ล้านบาท - สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ส.ค.67 อยู่ที่ระดับ 95.08 หดตัว 1.91% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ 8 เดือนหดตัวเฉลี่ย 1.55% หลังรับแรงกดดันจากปัญหาหนี้ภาคครัวเรือน สินค้านำเข้าราคา ถูกมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้น ต้นทุนภาคการผลิตปรับตัวขึ้น และราคาพลังงานยังคงอยู่ในระดับสูง โดยคาดดัชนี MPI ปีนี้อยู่ที่ -1.0 ถึง 0.0% และการขยายตัวของเศรษฐกิจ (GDP) ภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ -0.5% ถึงขยายตัว 0.5% - รมช.คลัง ชี้นโบายการเงินของไทยคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องสอดคล้องกับทิศทางนโยบายการเงินของโลก เพราะไทยไม่ ได้อยู่คนเดียวในโลก หากมีนโยบายการเงินที่ไม่สอดคล้องกับคนอื่น ค่าเงินก็จะเกิดความผันผวน - ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ (SNB) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่ระดับ 1.0% ในการประชุมวันนี้ตาม การวิเคราะห์ของนักเศรษฐศาสตร์ และถือเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งที่สามในปีนี้ - ทางการจีนประกาศจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ด้วยการแจกเงินให้กับประชาชนในกลุ่มที่ยากจนมาก โดยเป็น การแจกเงินแบบครั้งเดียวก่อนวันที่ 1 ต.ค. - ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีน ได้เรียกร้องให้รัฐบาลเพิ่มการใช้จ่ายด้านการคลัง รวมทั้ง ใช้มาตรการเพื่อสร้างเสถียรภาพในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ทรุดตัวลงอย่างหนัก และบังคับใช้มาตรการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นการส่ง สัญญาณเร่งด่วนว่าจีนต้องการสกัดการชะลอตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ - รายงานการประชุมประจำเดือนก.ค.ของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งเผยแพร่ในวันนี้ (26 ก.ย.) ระบุว่า กรรมการ BOJ มีความเห็นที่แตกต่างกันในประเด็นที่ว่า BOJ ควรจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวดเร็วเพียงใดในอนาคต ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความไม่แน่ นอนเกี่ยวกับช่วงเวลาที่ BOJ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในวันข้างหน้า - เอชเอสบีซี (HSBC) คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมทุกครั้ง นับตั้งแต่เดือนต.ค. ปีนี้ ไปจนถึงเดือนเม.ย. ปีหน้า เมื่อพิจารณาจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ซึ่งการปรับลดดอกเบี้ยดังกล่าวจะทำให้ อัตราดอกเบี้ยเงินฝากลดลงสู่ระดับ 2.25%

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย