InfoQuest - นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 33.21 บาท/ดอลลาร์ จากปิดตลาดเย็น วันศุกร์ที่ระดับ 33.31 บาท/ดอลลาร์ เงินบาทแข็งค่าจากปิดตลาด โดยตลาดมองว่ามีโอกาสมากขึ้นที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดดอกเบี้ย 0.50% ในการ ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้ ส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่าเทียบทุกสกุลเงิน ส่วนใหญ่ในภูมิภาค "เงินบาทที่ระดับ 33.21 บาท/ดอลลาร์ ยังแข็งค่าในรอบ 19 เดือน" นักบริหารเงิน กล่าว นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 33.10 - 33.35 บาท/ดอลลาร์ โดยวันนี้ต้องติดตาม ฟันด์โฟลว์ต่างชาติ
* ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยน อยู่ที่ระดับ 140.52 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 142.78 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1089 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.1090 ดอลลาร์/ยูโร - อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท. อยู่ที่ระดับ 33.319 บาท/ดอลลาร์ - สัปดาห์สุดท้ายของการยื่นขอ "ใบอนุญาต" ตั้งธุรกิจ "เวอร์ชวลแบงก์" ก่อน ธปท.เตรียมปิดยื่นขอไลเซนส์ 19 ก.ย.67 ชี้มี "ผู้สนใจ" ลงสนามแข่ง "คึกคัก" จับตา "4 บิ๊กกลุ่มทุน" ร่วมชิง "เอสซีบี เอกซ์-กรุงไทย-ทรู-บีทีเอส" หวังเค้กก้อนนี้อาจ สร้าง "รายได้" หรือต่อยอดธุรกิจใหม่ "มหาศาล" ในอนาคต ด้าน "แบงก์ชาติ" ประเมินอนุมัติไลเซนส์ไม่เกิน 3 รายเหมาะสม - "นักเศรษฐศาสตร์" ชี้ผู้สนใจ ลุยสนามเวอร์ชวลแบงก์ยิ่งมากช่วยเพิ่ม "คุณภาพบริการ-การแข่งขัน" หนุนต้นทุนดอกเบี้ยต่ำ ลง "บล.เกียรตินาคินภัทร" เปิด 3 ความเสี่ยงสกัดความสำเร็จ "ข้อมูลจริงต้องพร้อม-เทคโนโลยี-บิดเบือนฉ้อโกง" ด้าน "ศูนย์วิจัย กสิกรไทย" ย้ำเข้าถึงทุกคนดอกเบี้ยถูกจริงส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ "สมประวิณ" ชี้ เอื้อกลุ่มหนี้นอกระบบ เข้าระบบหนุนเกิดการแข่งขันใน ธุรกิจแบงก์ - จีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ชะลอตัวออกมาอีก หลังจากเปิดเผยตัวเลขการปล่อยกู้ของภาคธนาคารที่อ่อนแอเมื่อวันศุกร์ ซึ่ง ตอกย้ำถึงแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอในไตรมาส 3 และจีนอาจจำเป็นที่ต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้นเพื่อเสริม ความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจจีนซึ่งใหญ่เป็นอันดับสองของโลก - กระทรวงพาณิชย์จีนออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้ (14 ก.ย.) ว่า จีนไม่พอใจอย่างยิ่งและขอคัดค้านการที่สหรัฐฯ ใช้มาตรา 301 ในการขึ้นภาษีสินค้าจีนบางรายการ - นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันอังคารและวันพุธนี้ (17-18 ก.ย.) โดยตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2563 - หากเฟดลดอัตราดอกเบี้ยตามคาดในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย. จะเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของเฟดในปี นี้ และครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งขณะนั้นเฟดได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงใกล้ 0% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ท่ามกลาง การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 - โกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมคณะ กรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ซึ่งสวนทางกับรายงานข่าวที่มีการคาดการณ์ครั้งใหม่ว่า เฟดอาจจะลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% - ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญสัปดาห์นี้ ได้แก่ ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์กและฟิลาเดลเฟีย และดัชนี ตลาดที่อยู่อาศัยเดือนก.ย. ตัวเลขยอดค้าปลีก การผลิตภาคอุตสาหกรรม การเริ่มสร้างบ้าน และยอดขายบ้านมือสองเดือนส.ค. และตัว เลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์