InfoQuest - ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (13 ก.ย.) และร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 9 เดือนเมื่อเทียบกับเยน หลังจากรายงานของสื่อกระตุ้นการคาดการณ์อีกครั้งว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% ในการประชุมนโยบายการเงินในสัปดาห์หน้า
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.25% สู่ระดับ 101.114
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะ 140.93 เยนในวันศุกร์ (13 ก.ย.) จากระดับ 142.03 เยนในวันพฤหัสบดี (12 ก.ย.) และดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะ 0.8482 ฟรังก์สวิส จาก 0.8520 ฟรังก์สวิส แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะ 1.3596 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.3589 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะ 1.1078 ดอลลาร์สหรัฐในวันศุกร์ จาก 1.1061 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี และปอนด์แข็งค่าแตะ 1.3120 ดอลลาร์ จาก 1.3103 ดอลลาร์
นักวิเคราะห์กล่าวว่า รายงานจากวอลล์สตรีทเจอร์นัลและไฟแนนเชียลไทม์สเมื่อวันพฤหัสบดีทำให้ตลาดคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% ในการประชุมสัปดาห์หน้า
โจน ฟอสต์ ที่ปรึกษาอาวุโสของเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ระบุในบทความที่มีการตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลฉบับวันพฤหัสบดีว่า ถ้าหากเจ้าหน้าที่เฟดได้ข้อสรุปว่าพวกเขามีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนพ.ย.หรือธ.ค. พวกเขาก็ควรที่จะดำเนินการดังกล่าวในขณะนี้ซึ่งอัตราดอกเบี้ยอยู่ห่างไกลที่สุดจากจุดหมายปลายทางสุดท้ายของพวกเขา
นอกจากนี้ ฟอสต์ระบุว่า แม้เขาคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังไม่ได้อยู่ในจุดที่จำเป็นต้องให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% แต่เขาก็มีความโน้มเอียงเล็กน้อยที่ต้องการให้เฟดเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% และคิดว่ามีโอกาสที่เฟดจะดำเนินการดังกล่าวเช่นกัน
ความเห็นของฟอสต์สอดคล้องกับบิล ดัดลีย์ อดีตประธานเฟดสาขานิวยอร์กซึ่งกล่าวว่า มีโอกาสอย่างมากที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากถึง 0.50% ในการประชุมสัปดาห์หน้า
"ผมคิดว่ามีโอกาสอย่างมากที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ไม่ว่าพวกเขาจะทำเช่นนั้นหรือไม่ก็ตาม" ดัดลีย์กล่าวนอกจากนี้ ดัดลีย์ระบุว่า ขณะนี้อัตราดอกเบี้ยอยู่สูงกว่าระดับที่เป็นกลางราว 1.50-2.00%
นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักให้กับการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากถึง 0.50% ในสัปดาห์หน้า หลังการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่สูงกว่าคาดในสัปดาห์นี้
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 49% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 4.75-5.00% ในการประชุมวันที่ 18 ก.ย.นี้ หลังจากให้น้ำหนักเพียง 28% เมื่อวันพฤหัสบดีนอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 51% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 18 ก.ย. หลังจากให้น้ำหนักมากถึง 72% ในวันพฤหัสบดี
หากเฟดลดอัตราดอกเบี้ยตามคาดในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย. ก็จะเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของเฟดในปีนี้ และครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งขณะนั้นเฟดได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงใกล้ 0% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19