InfoQuest - นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 33.76 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าต่อ เนื่องจากเปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 33.90 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 33.76 - 33.91 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินในภูมิภาคเคลื่อนไหวแบบผสม โดยตลาดรอดูการดีเบตของผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ รวมทั้งการรายงานอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ "บาททยอยแข็งค่าต่อเนื่องจากช่วงเช้า วันนี้ปิดตลาดแข็งค่าสุดของวัน โดยบาทปรับตัวแข็งค่าสุดเป็นอันดับ 2 รองจากริงกิต ของมาเลเซีย" นักบริหารเงินฯ กล่าว นักบริหารเงินฯ ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 33.70 - 33.90 บาท/ดอลลาร์
* ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยน อยู่ที่ระดับ 143.25 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 143.26 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1041 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.1030 ดอลลาร์/ยูโร - ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,428.03 จุด ลดลง 3.10 จุด, -0.22% มูลค่าซื้อขายราว 64,216.02 ล้านบาท - สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 490.07 ล้านบาท (SET+MAI) - ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินการแจกเงินหมื่นบาทในรูปเงินสดภายใต้โครงการดิจิ ทัลวอลเล็ตให้กับกลุ่มเปราะบางเป็นลำดับแรกในช่วงเดือนก.ย.จะช่วยกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ เติบโตราว 3.5-4% และภาพรวมจะช่วยกระตุ้น GDP ของทั้งปีเพิ่มขึ้นอีก 0.2-0.3% เป็น 2.7-2.8% จากเดิมที่คาดว่าเศรษฐกิจไทยใน ปี 67 จะเติบโตราว 2.5% - ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เผยภาวะตลาดหลักทรัพย์เดือน ส.ค.67 ได้รับปัจจัยหนุนทั้งภายในและภายนอก ประเทศ ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 1,359.07 จุด เพิ่มขึ้น 2.9% จากเดือนก่อน - กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เผยภาพรวมสถานการณ์ท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-8 ก.ย.67 มีจำนวนนักท่องเที่ยว ต่างชาติสะสมทั้งสิ้น 24,174,056 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายประมาณ 1,135,748 ล้านบาท โดยนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน มาเลเซีย อินเดีย เกาหลีใต้ และรัสเซีย - สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายซึ่งนำไปสู่การขึ้นบัญชีดำบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของจีน และบริษัทในเครือ ที่ตั้ง อยู่ในสหรัฐฯ ด้วยคะแนนเสียง 306 ต่อ 81 และขณะนี้กำลังถูกส่งต่อไปยังวุฒิสภา - มอร์แกน สแตนลีย์คาดการณ์ว่า สกุลเงินยูโรจะอ่อนค่าลงจนเทียบเท่ากับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เนื่องจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) เร่งการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพื่อรับมือกับภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจ - สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) รายงานว่า ยอดส่งออกพุ่งขึ้น 8.7% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งแข็งแกร่งกว่าที่ นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่าอาจจะเพิ่มขึ้น 6.5% และดีกว่าในเดือนก.ค.ที่ปรับตัวขึ้น 7% - คิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ประกาศจะส่งเสริมศักยภาพด้านอาวุธนิวเคลียร์อย่างก้าวกระโดด และเตรียมกอง กำลังให้พร้อมสำหรับการสู้รบเพื่อตอบโต้สหรัฐฯ และชาติพันธมิตร ซึ่งกำลังขยายกลุ่มกองกำลังทหารที่ใช้อาวุธนิวเคลียร์ในภูมิภาค - ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่จะรายงานในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนส.ค., จำนวนผู้ขอรับ สวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.ค. และ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนก.ย.