InfoQuest - นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 33.95/96 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก ช่วงเช้าเปิดตลาดที่ระดับ 33.70 บาท/ดอลลาร์ เงินบาทและสกุลเงินในภูมิภาคส่วนใหญ่เคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน โดยระหว่างวันยังไร้ปัจจัยใหม่ สำหรับคืนนี้ ยังไม่มี ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่ต้องติดตาม อย่างไรก็ดี คาดว่าเงินบาทมีโอกาสแตะ 34 บาท/ดอลลาร์ได้ โดยตลาดรอดูตัวเลขเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ ทั้งผลการประชุม ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.ค. ของสหรัฐฯ ส่วนปัจจัยในประเทศที่ทำให้เงินบาทมีโอกาสแข็งค่าได้อีก คือหากมีการประกาศใช้นโยบายปรับขึ้นค่าแรง 400 บาท/วัน ทั่ว ประเทศ อย่างเป็นทางการ นักบริหารเงิน ประเมินว่า วันพรุ่งนี้ เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.85 - 34.10 บาท/ดอลลาร์
* ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยน อยู่ที่ระดับ 143.47/48 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 142.65 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1056/1058 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1088 ดอลลาร์/ยูโร - ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,431.13 จุด เพิ่มขึ้น 3.49 จุด (+0.24%) มูลค่าการซื้อขาย 87,214.48 ล้านบาท - สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 3,637.26 ลบ.(SET+MAI) - ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เชื่อว่า ตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวขึ้นไปได้จากความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้น หลัง จากสถานการณ์เศรษฐกิจที่ดีขึ้น การเมืองมีเสถียรภาพมากขึ้น แต่ในระยะกลาง-ยาว 3-5 ปี จะต้องมาคิดเรื่องการสร้างสินค้าใหม่ ๆ ที่ เพิ่มความน่าสนใจให้กับตลาดทุนไทย เพื่อดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศให้เข้ามา - ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ผลสำรวจในเดือนส.ค. 67 พบว่า ดัชนีความ เชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 132.51 ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ในเกณฑ์ "ร้อนแรง" โดยนักลงทุนมองว่ามาตรการกระตุ้น เศรษฐกิจของภาครัฐ เป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นมากที่สุด รองลงมา คือ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ และสัญญาณบวกจากความ ชัดเจนของการเมืองในประเทศ ในขณะที่ปัจจัยที่ฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด ได้แก่ ความไม่แน่นอนของสถานการณ์การเมืองใน ประเทศ รองลงมา คือ การถดถอยของเศรษฐกิจในประเทศ และสภาวะเงินเฟ้อ - กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ประเมินทิศทางเงินบาทในสัปดาห์นี้ มีแนวโน้มเคลื่อนไหวใน กรอบ 33.40-34.00 บาท/ดอลลาร์ โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดแข็งค่าที่ 33.54 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 33.50- 34.31 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบเกือบ 16 เดือน - กองทุนวายุภักษ์ หนึ่ง จะเปิดให้นักลงทุนรายย่อยจองซื้อหน่วยลงทุนประเภท ก. (ประชาชนทั่วไป) รอบใหม่ได้เป็นกลุ่ม แรกในวันที่ 16-20 ก.ย. นี้ วงเงินรวมเบื้องต้น 3-5 หมื่นล้านบาท ในราคาเสนอขายหน่วยละ 10 บาท โดยสามารถจองซื้อขั้นต่ำ 1 หมื่นบาท และเพิ่มขึ้นได้ครั้งละ 1,000 บาท จัดสรรในรูปแบบ Small Lot First เพื่อกระจายให้ผู้ลงทุนได้อย่างทั่วถึง โดยจะประกาศ ผลการจัดสรรในวันที่ 25 ก.ย. ทั้งนี้ คาดว่าจะเริ่มนำเงินเม็ดเงินระดมทุนใหม่เข้าลงทุนได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. และจะนำหน่วยลงทุนเข้า ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วันที่ 7 ต.ค. - ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) (CGSI) ประมาณการว่าตลาดหุ้นไทยอาจมีเงินทุนไหลเข้า ราว 1.7 แสนล้านบาท ในไตรมาส 4/67 จากกองทุนวายุภักษ์ หนึ่ง และกองทุน Thai ESG - จีนเตรียมเปิดกว้างให้ต่างชาติเข้าลงทุนในภาคการผลิตได้อย่างเต็มรูปแบบ และจะอนุญาตให้บริษัทจากต่างประเทศลงทุน ในภาคบริการสุขภาพได้มากขึ้น ซึ่งนับเป็นความพยายามล่าสุดของปักกิ่งในการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ซบเซาของประเทศ - ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่จะมีการรายงานในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขคาดการร์เงินเฟ้อของผู้บริโภคเดือนส.ค., ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนส.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.ค. และดัชนีความ เชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนก.ย.