InfoQuest - ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (26 ส.ค.) เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อดอลลาร์ซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัย ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐอย่างใกล้ชิด เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.13% แตะที่ระดับ 100.851
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 144.51 เยน จากระดับ 144.30 เยนในวันศุกร์ (23 ส.ค.) แต่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8471 ฟรังก์ จากระดับ 0.8479 ฟรังก์ และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3475 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3513 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1163 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1187 ดอลลาร์ในวันศุกร์ ส่วนเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3190 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3203 ดอลลาร์
นักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง หลังมีรายงานว่ากองทัพอิสราเอลได้ส่งเครื่องบินรบกว่า 100 ลำโจมตีเป้าหมายของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ก่อนที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ซึ่งได้รับการหนุนหลังโดยอิหร่านจะยิงจรวดกว่า 320 ลูกถล่มดินแดนอิสราเอล
กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ระบุว่า การโจมตีครั้งนี้เป็นการตอบโต้อิสราเอลที่ลอบสังหารนายฟูอัด ชูกร์ ผู้บัญชาการทหารระดับสูงของฮิซบอลเลาะห์เมื่อเดือนที่แล้ว ขณะที่อิสราเอลระบุว่า การเปิดฉากโจมตีกลุ่มฮิซบอลเลาะห์เป็นการชิงลงมือก่อน โดยมีเป้าหมายที่จะสกัดแผนการโจมตีจากฝั่งฮิซบอลเลาะห์
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ประจำเดือนก.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PCE ทั่วไป (Headline PCE) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 2.5% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากปรับตัวขึ้น 2.5% เช่นกันในเดือนมิ.ย. และคาดว่าดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 2.7% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.6% ในเดือนมิ.ย.