InfoQuest - นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงิน บาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 35.87 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากปิดวันก่อนที่ระดับ 36.00 บาท/ดอลลาร์ ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ sideways ก่อนที่จะพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องอย่างรวดเร็ว ตามการทยอย แข็งค่าขึ้นของเงินเยน หลังมีข่าวว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย และปรับลดปริมาณการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาล โดยวันนี้ ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ผลการประชุม BOJ ซึ่งต้องระวังความผันผวนในตลาดการเงิน หาก BOJ ไม่ได้ดำเนินนโยบาย การเงินที่เข้มงวดมากขึ้น อย่างที่ตลาดคาดหวัง ก็อาจกดดันให้เงินเยนพลิกกลับมาอ่อนค่าได้ สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาทนั้น การแข็งค่าอาจเริ่มชะลอลงตามโฟลว์ธุรกรรมซื้อเงินดอลลาร์ของผู้เล่นในตลาดบางส่วน ในช่วงปลายเดือน "เงินบาทมีโอกาสพลิกกลับมาอ่อนค่าลงได้เร็วและแรง หากตลาดผิดหวังกับผลการประชุม BOJ ในวันนี้" นายพูนระบุ นายพูน มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.75-36.25 บาท/ดอลลาร์ SPOT ล่าสุด อยู่ที่ระดับ 35.7525 บาท/ดอลลาร์
* ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 152.29 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 154.69 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0819 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.0831 ดอลลาร์/ยูโร - อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท. อยู่ที่ระดับ 35.982 บาท/ดอลลาร์ - "เศรษฐา" เผยส่งคำแถลงปิดคดีศาลรัฐธรรมนูญ ปัดตอบรายชื่อ นายกฯ สำรอง แจงคุย "ทักษิณ" รอพ้นโทษ ให้ช่วยงาน รัฐบาล รมว.กลาโหมประเมินสถานการณ์สิงหาไร้ป่วน ขณะที่ก้าวไกล แถลงใหญ่คดียุบพรรค 2 ส.ค. - พาณิชย์โชว์ตัวเลขส่งออกข้าวไทยฉลุย ครึ่งปีแรกกว่า 5 ล้านตัน ครึ่งหลังแค่ส่งได้ 5 แสนตัน/เดือน ดันเป้าใหม่ทะลุ 8.2 ล้านตัน จากเป้าเดิม 7.5 ล้านตัน มีลุ้นไทยครองที่สองของโลกแซงเวียดนาม กางแผนรุกตลาด เน้นโปรโมตเจาะรายประเทศ เร่ง เจรจาขายจีทูจี - กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น เปิดเผยข้อมูลประมาณการเบื้องต้นในวันนี้ (31 ก.ค.) ว่า ผล ผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในเดือนมิ.ย. ลดลง 3.6% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน โดยสาเหตุหลักมาจากการหยุดผลิตรถยนต์ชั่วคราว อัน เนื่องมาจากเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการรับรองมาตรฐาน - สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนก.ค.หดตัวลงติดต่อกัน เป็นเดือนที่ 3 ซึ่งทำให้ตลาดคาดการณ์ว่ารัฐบาลจีนอาจจำเป็นต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เนื่องจากวิกฤตภาคอสังหาริม ทรัพย์และตลาดแรงงานที่ไร้เสถียรภาพยังคงฉุดรั้งการเติบโตของเศรษฐกิจ - สหรัฐรายงานยอดเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนมิ.ย.ลดลง 46,000 ตำแหน่ง สู่ ระดับ 8.18 ล้านตำแหน่ง จากระดับ 8.23 ล้านตำแหน่งในเดือนพ.ค. ทั้งนี้ ตัวเลข JOLTS นับเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสนใจ โดยมอง ว่าเป็นมาตรวัดภาวะตึงตัวในตลาดแรงงาน ซึ่งเป็นปัจจัยในการพิจารณานโยบายการเงิน และอัตราดอกเบี้ยของเฟด - ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (30 ก.ค.) ก่อนที่นักลงทุนจะรู้ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในสัปดาห์นี้ รวมถึงรอการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐในวันศุกร์นี้ด้วย - สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 3% ในวันอังคาร (30 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคาร กลางสหรัฐ (เฟด) จะส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 74.10 ดอลลาร์ หรือ 3.12% ปิดที่ 2,451.90 ดอลลาร์/ออนซ์ - สภาทองคำโลก (WGC) เปิดเผยว่า อุปสงค์ทองคำในประเทศอินเดียลดลง 5% ในไตรมาส 2/2567 เมื่อเทียบเป็นราย ปี แต่ WGC คาดว่าอุปสงค์ทองคำในอินเดียจะฟื้นตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 เนื่องจากราคาทองคำภายในประเทศมีแนวโน้มลดลง หลังจากรัฐบาลประกาศลดภาษีนำเข้าทองคำ - นักลงทุนจับตาผลการประชุมเฟดคืนนี้ โดยตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ที่ระดับ 5.25-5.50% และ คาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. รวมทั้งจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด เพื่อ หาสัญญาณบ่งชี้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของเฟดในปีนี้ - นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์คาด การณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 177,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. จากระดับ 206,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. และคาดว่าอัตราว่าง งานจะทรงตัวที่ระดับ 4.1% ในเดือนก.ค.