InfoQuest - ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (5 มิ.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขภาคการบริการที่แข็งแกร่ง ส่วนยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังจากตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันนี้ (6 มิ.ย.)
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.15% แตะที่ระดับ 104.268
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0876 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0882 ดอลลาร์ในวันอังคาร (4 มิ.ย.) ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2793 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2781 ดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 156.10 เยน จากระดับ 154.71 เยนในวันอังคาร นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8932 ฟรังก์ จากระดับ 0.8895 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3689 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3680 ดอลลาร์แคนาดา
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น หลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 53.8 ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2566 จากระดับ 49.4 ในเดือนเม.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 50.8
ทั้งนี้ ดัชนีปรับตัวสูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ภาวะขยายตัวของภาคบริการสหรัฐ หลังจากอยู่ในภาวะหดตัวในเดือนเม.ย. โดยดัชนีภาคบริการของ ISM ประกอบด้วยอุตสาหกรรม 17 กลุ่ม ซึ่งรวมถึงอสังหาริมทรัพย์ การขนส่ง การก่อสร้าง และเหมืองแร่
ส่วนยูโรอ่อนค่าลง หลังจากตลาดคาดการณ์ว่าคณะกรรมการ ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันนี้
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนพ.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้อย่างใกล้ชิด เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับช่วงเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 185,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 175,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.9% ในเดือนพ.ค.