InfoQuest - ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (17 เม.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งคาดว่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงเป็นเวลานานกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.19% สู่ระดับ 106.150
สหรัฐเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจและตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง โดยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกอยู่ที่ระดับ 212,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งแม้ว่าไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า แต่ตัวเลขดังกล่าวอยู่ในระดับต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 215,000 ราย
ทางด้านเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียรายงานว่า ดัชนีภาคการผลิตในภูมิภาคมิด-แอตแลนติก พุ่งขึ้น 12.3 จุด สู่ระดับ +15.5 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ +2.5 โดยดัชนียังคงมีค่าเป็นบวก ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตในภูมิภาคมิด-แอตแลนติกยังคงมีการขยายตัว
ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจและตลาดแรงงาน รวมทั้งตัวเลขเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง และการแสดงความเห็นของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดซึ่งรวมถึงนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดนั้น ทำให้นักลงทุนลดน้ำหนักต่อการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย.และเดือนก.ค.
เจ้าหน้าที่เฟดหลายราย ซึ่งรวมถึงนางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์, นางมิเชล โบว์แมน สมาชิกคณะผู้ว่าการเฟด, นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก และนายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา ต่างก็แสดงความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า เฟดยังไม่ควรเร่งปรับลดอัตราดอกเบี้ย เพราะการที่เงินเฟ้อจะชะลอตัวลงสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% นั้น อาจจะใช้เวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้
นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 30 เม.ย. - 1 พ.ค.นี้ โดยตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมดังกล่าว