InfoQuest - นักบริหารเงินธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 36.17 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเปิดตลาดเมื่อเช้า ที่ระดับ 36.08 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันเงินบาทยังไม่มีปัจจัยใหม่ เคลื่อนไหวในกรอบ 35.95 - 36.20 บาท/ ดอลลาร์ สำหรับคืนนี้ตลาดรอดูผลประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งคาดว่าจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. นี้ ขณะเดียว กัน ตลาดรอติดตามว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยกี่ครั้ง และเดือนใดในปีนี้ ทั้งนี้ หากผลประชุมคืนนี้ออกมาว่าเฟดคงดอกเบี้ย จะส่งผลให้เงินบาทใน วันพรุ่งนี้อ่อนค่าขึ้นได้ นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 35.95 - 36.20 บาท/ดอลลาร์ * ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 151.75 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 151.16 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0837 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0865 ดอลลาร์/ยูโร - ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ 1,373.18 จุด ลดลง 9.28 จุด (-0.67%) มูลค่าการซื้อขาย 54,648.47 ล้านบาท - สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 20,092.90 ล้านบาท - รมช.คลัง ชี้แจงถึงข้อห่วงใยเรื่องการตั้งงบประมาณโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่มีข้อเสนอให้บรรจุไว้ในงบประมาณปี 2567 ว่า รัฐบาลยังคงเดินหน้าโครงการทุกโครงการของรัฐบาลรวมถึงดิจิทัลวอลเล็ต แต่ในการพิจารณาของคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ต ยืนยันว่ามีความจำเป็นในการกู้ผ่าน พ.ร.บ. ซึ่งหากมีการเปลี่ยนแปลง ก็จะมีการพิจารณาให้ความเห็นชอบจากสมาชิกทุกคน และยืนยันว่า ยังเดินหน้าโครงการนี้แน่นอน - ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) มองว่า โครงการแจกเงิน 1 หมื่นบาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตของ รัฐบาล มีกระบวนการวางแผนที่ยังไม่ดีพอ และไม่ได้เรียนรู้จากบทเรียนที่เกิดขึ้นในอดีต และโครงการนี้ยังมีความเสี่ยงสูงที่บริษัทเอกชนจะ ถูกลดเครดิตเรตติ้ง ตามการลดเครดิตเรตติ้งของประเทศจากปัญหาวินัยทางการคลัง อีกทั้งโครงการแจกเงินดังกล่าว อาจก่อให้หนี้ สาธารณะพุ่งสูง ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ - ประเทศไทยคว้าอันดับ 2 ในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย (Emerging and Developing : E&D) ที่น่าลงทุนที่ สุด จากการประกาศผลดัชนีโอกาสด้านการลงทุนระดับโลก (Global Opportunity Index : GOI) ซึ่งจัดทำโดย Milken Institute ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเชื่อมั่นว่าการทำงานของรัฐบาล จะดึงดูดการลงทุนให้เห็นผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมผลักดันให้ ไทยอยู่ในเรดาห์น่าลงทุนในโลก - ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กล่าวว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในอนาคตนั้น จะขึ้นอยู่กับว่าเศรษฐกิจและ สถานการณ์ด้านเงินเฟ้อมีพัฒนาการอย่างไร แต่ไม่คิดว่า BOJ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบเชิงรุก เมื่อพิจารณาจากสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน - อดีตเจ้าหน้าที่ปริวรรตเงินตราระดับสูงของญี่ปุ่น เจ้าของฉายา "มิสเตอร์เยน" ระบุว่า หน่วยงานญี่ปุ่นอาจเข้าแทรกแซง ตลาดปริวรรตเงินตราเพื่อพยุงค่าเงินเยน หากเงินเยนร่วงสู่ระดับ 155-160 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ - นักวิเคราะห์เชื่อมั่นมากขึ้นว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะสามารถหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยและจะชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปหรือ ซอฟต์แลนดิ้ง พร้อมกับคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะไม่ชะลอตัวลงมากนักในช่วง 2 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นการคาดการณ์ที่ดีกว่าการสำรวจในช่วงที่ ผ่านมา การคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้นเช่นนี้ บ่งชี้ว่านักวิเคราะห์มองว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปี 67 จะมีจำนวนครั้ง น้อยกว่าที่มีการสำรวจในเดือนธ.ค. 66 ส่วนในการประชุมนโยบายการเงินล่าสุดซึ่งจะมีการแถลงมติในวันนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาด การณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 5.25-5.50%