รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 35.76 แนวโน้มอ่อนค่า ให้กรอบ 35.70-35.90 ตลาดรอลุ้นประชุมกนง.พรุ่งนี้

เผยแพร่ 06/02/2567 16:30
อัพเดท 06/02/2567 15:41
© Reuters ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 35.76 แนวโน้มอ่อนค่า ให้กรอบ 35.70-35.90 ตลาดรอลุ้นประชุมกนง.พรุ่งนี้

InfoQuest - นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงิน บาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 35.76 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากปิดวันก่อนที่ 35.79 บาท/ดอลลาร์ สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาทยังคงเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าต่อเนื่อง ท่ามกลางการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ ที่ยังได้แรง หนุนจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาด รวมถึงมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่เชื่อว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจไม่ รีบลดดอกเบี้ย และอาจจะลดดอกเบี้ยได้น้อยกว่าที่ตลาดเคยประเมินไว้ "วันนี้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ อาจไม่ใช่จุดสนใจของผู้เล่นในตลาด ทำให้ควรระวังความผันผวนของค่าเงิน ในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจฝั่งยูโรโซน" นายพูน ระบุ นอกจากนี้ ค่าเงินบาทอาจเผชิญแรงกดดันเพิ่มเติมจากความกังวลว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อาจลดดอกเบี้ยได้ เร็วขึ้น จากที่ตลาดเคยประเมินไว้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ หลังรายงานอัตราเงินเฟ้อ (CPI) ของไทยล่าสุด ชะลอลงต่อเนื่อง นายพูน มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.70-35.90 บาท/ดอลลาร์ SPOT ล่าสุด อยู่ที่ระดับ 35.77750 บาท/ดอลลาร์

* ปัจจัยสำคัญ - เงินเยน อยู่ที่ระดับ 148.54 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 148.49 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0743 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.0760 ดอลลาร์/ยูโร - อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท. อยู่ที่ระดับ 35.701 บาท/ดอลลาร์ - คลังจับตา กนง.ประชุม 7 ก.พ.นี้ ชี้เคาะดอกเบี้ยต้องเชื่อมโยงประชาชน หลังเงินเฟ้อติดลบ 1.11% ต่ำสุดรอบเกือบ 3 ปี เพราะคนขาดกำลังซื้อ-หาเงินใช้หนี้ - ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่าเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยในปีนี้ จะอยู่ที่ราว 0.8% ซึ่งต่ำกว่ากรอบเงินเฟ้อของธนาคารแห่งประเทศ ไทย (ธปท.) ที่ 1-3% จึงมีความเป็นไปได้ที่ ธปท.จะพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในช่วงครึ่งหลังปีนี้ - "สมาคมโรงแรม-แอตต้า" ชมมาตรการยกเว้นวีซ่าของรัฐบาลช่วยท่องเที่ยวฟื้นได้ในปีนี้ ไม่ต้องรอถึงปีหน้า คาดอัตราการ เข้าพักโรงแรมอยู่ที่ 70% เฉพาะช่วงตรุษจีนขึ้นมา 80% ขณะที่การเที่ยวผ่านกรุ๊ปทัวร์และธุรกิจ MICE ก็กลับมาแล้ว - ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้สัมภาษณ์ในรายการ "60 Minutes" ของสถานีโทรทัศน์ซีบีเอสเมื่อวันอาทิตย์ที่ ผ่านมาว่า เฟดจะดำเนินการอย่างระมัดระวัง ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ และมีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยล่าช้ากว่าที่ตลาด คาดการณ์ไว้ - ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (5 ก.พ.) หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคบริการที่แข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูง ยาวนานกว่าที่คาดไว้ - สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (5 ก.พ.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของอัตรา ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยฉุดตลาด นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ ระดับสูงเป็นเวลานานกว่าที่คาด - อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 4.1% หลังสหรัฐเปิดเผย ดัชนีภาคบริการที่แข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงยาวนานกว่าที่คาดไว้ - นักลงทุนพากันปรับลดน้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนพ.ค. ขณะ ที่เพิ่มน้ำหนักให้กับการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในเดือนดังกล่าว หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคบริการที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะเป็นปัจจัย หนุนให้เฟดตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงยาวนานกว่าที่คาดไว้ ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 52.5% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือนพ.ค. หลังจากที่ให้น้ำหนัก 59.9% เมื่อวานนี้ - องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) ระบุในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจครั้งล่าสุดซึ่งมีการเผย แพร่เมื่อวันจันทร์ (5 ก.พ.) ว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2567 มีแนวโน้มลดลงสู่ระดับ 2.9% จากระดับ 3.1% ในปี 2566 แต่ตัวเลขดังกล่าวอยู่ในระดับสูงกว่า 2.7% ที่ OECD ได้คาดการณ์ไว้ในเดือนพ.ย. 2566 ขณะเดียวกัน OECD ได้คงตัวเลขคาดการณ์การ ขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2568 ไว้ที่ระดับ 3.0% โดยคาดว่าเศรษฐกิจในปีดังกล่าวจะได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางรายใหญ่ หลายแห่งพากันปรับลดอัตราดอกเบี้ยเนื่องจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อเริ่มอ่อนแรงลง - ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่เปิดเผยในวันนี้ ญี่ปุ่นเปิดเผยการใช้จ่ายภาคครัวเรือนเดือนธ.ค., ออสเตรเลียเปิดเผยยอดค้าปลีก เดือนธ.ค. (ประมาณการครั้งสุดท้าย) และธนาคารกลางออสเตรเลียประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย และอียูเปิดเผย ยอดค้าปลีกเดือนธ.ค.

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย