รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 34.94 แข็งค่า หลัง BoE-ECB คงดอกเบี้ยตามเฟด จับตาปัจจัยตปท.

เผยแพร่ 15/12/2566 16:30
© Reuters.  ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 34.94 แข็งค่า หลัง BoE-ECB คงดอกเบี้ยตามเฟด จับตาปัจจัยตปท.

InfoQuest - นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงิน บาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 34.94 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากปิดเมื่อวานที่ระดับ 35.06 บาท/ดอลลาร์ ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาทเคลื่อนไหวผันผวน แต่โดยรวมแข็งค่าขึ้น ท่ามกลางการทยอยอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ หลังตลาด การเงินยังอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยง ขณะเดียวกัน เงินดอลลาร์เผชิญแรงกดดันจากการแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องของสกุลเงินฝั่งยุโรป ทั้งเงินปอนด์และเงินยูโร หลัง ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ต่างมีมติคงอัตราดอกเบี้ยเช่นเดียวกับเฟด แต่ทั้ง 2 ธนาคารกลาง กลับย้ำ จุดยืนคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับสูง จนกว่าจะคุมปัญหาเงินเฟ้อได้สำเร็จ วันนี้ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญรายเดือนของจีน รวมทั้งจับตารายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการ ผลิตอุตสาหกรรมและภาคการบริการ เดือนธ.ค.จากฝั่งอังกฤษ ยูโรโซน และสหรัฐฯ เพื่อประกอบการประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจและทิศ ทางนโยบายการเงินของบรรดาประเทศเศรษฐกิจหลัก สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาท ประเมินว่า การแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องของเงินบาทนับตั้งแต่ตลาดรับรู้ผลการประชุมเฟด รวมถึงผล การประชุม BoE และ ECB อาจเริ่มชะลอลงบ้าง จนกว่าเงินบาทจะได้รับปัจจัยหนุนฝั่งแข็งค่าใหม่เพิ่มเติม นายพูน คาดกรอบเงินบาทวันนี้จะอยู่ที่ระดับ 34.80-35.10 บาท/ดอลลาร์ SPOT ล่าสุด อยู่ที่ระดับ 34.87000 บาท/ดอลลาร์

* ปัจจัยสำคัญ - เงินเยน อยู่ที่ระดับ 142.33 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 141.48/51 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0986 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.0901/0905 ดอลลาร์/ยูโร - อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 35.133 บาท/ดอลลาร์ - บีโอไอเผย 3 ภารกิจนายกฯ "เศรษฐา" ในญี่ปุ่น เข้าร่วมสัมมนาการค้าดึงการลงทุน พุ่งเป้า 5 อุตสาหกรรม พร้อมพบ 7 ผู้ผลิตยานยนต์ขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น และเข้าคุย 40 บิ๊กนักธุรกิจญี่ปุ่นเพื่อชักชวนลงทุนโปรเจกต์แลนด์บริดจ์ - ที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและติดตามนโยบายการส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) รับทราบและเห็นชอบ แนวทางการดำเนินงานตามที่สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ในฐานะฝ่ายเลขานุการฯ นำเสนอทั้งความคืบหน้าการพัฒนาอีวี การส่งเสริมการดัดแปลงรถยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ (EV Conversion) แนวทางการส่งเสริม System Integrator (SI) สำหรับ อุตสาหกรรมการผลิต รวมถึงแนวทางการส่งเสริมและจัดการแบตเตอรี่ในประเทศและได้มอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือทุกฝ่ายตาม ระเบียบขั้นตอน เพื่อกำหนดแนวทางที่เหมาะสมในการเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรมผลิตอีวี ครบวงจรเพื่อรักษาฐานการผลิตและศูนย์กลาง การผลิตอีวีแห่งอาเซียน - รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับ 3 บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ ได้แก่ หัวเว่ย กูเกิล (NASDAQ:GOOGL) และไมโครซอฟท์ โดยปี 67 จะเปิดโครงการ 1 อำเภอ 1 ไอทีแมน เพื่อให้มีผู้เชี่ยวชาญไอทีทุกอำเภอ "ดีอีมีเป้าหมายดึงการลง ทุนและพัฒนากำลังคนดิจิทัล โดยเฉพาะด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) และคลาวด์ ร่วมกับเทคคอมพานีขนาดใหญ่รวมทั้งยังได้เปิดเจรจากับอาลี บาบาและแอมะซอนด้วย ประเมินว่าการดึงดูดการลงทุนและพัฒนาบุคลากรร่วมกันครั้งนี้ จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 300,000 ล้าน บาท" - "ภูมิธรรม" ควง "อุ๊งอิ๊ง" ติดปีกผู้ประกอบการไทยด้วย "Soft Power x ทรัพย์สินทางปัญญา" ดันส่งออกซอฟต์พาวเวอร์ ไทยสู่เวทีโลก ตั้งเป้า! เพิ่มรายได้ 20 ล้านครัวเรือน ทำเงินเข้าประเทศ 4 ล้านล้านบาทต่อปี - ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ได้ตัดสินใจตรึงอัตราดอกเบี้ยไม่เปลี่ยนแปลงในการประชุม นโยบายการเงินในวันพฤหัสบดี (14 ธ.ค.) แต่ส่งสัญญาณว่าจะยังไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเร็ว ๆ นี้ - กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 19,000 ราย สู่ระดับ 202,000 รายใน สัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 220,000 ราย - ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (14 ธ. ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายดอลลาร์หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า อาจจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีหน้า - สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันพฤหัสบดี (14 ธ.ค.) ขานรับผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่ง ส่งสัญญาณยุติวัฏจักรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า - นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในการประชุมเดือนมี.ค. 2567 หลังจากที่เฟดส่ง สัญญาณยุติวัฏจักรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 3 ครั้งในปี 2567 ในการประชุมของคณะกรรมการ กำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) เมื่อวันพุธที่ผ่านมา - ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐวันนี้ ได้แก่ ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนธ.ค.จากเฟด นิวยอร์ก, การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย., PMI ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนธ.ค.จากเอสแอนด์พี โกลบอล และ PMI ภาคบริการขั้นต้น เดือนธ.ค.จากเอสแอนด์พี โกลบอล

นี่คือโฆษณาของบุคคลที่สาม ไม่ใช่ข้อเสนอหรือคำแนะนำจาก Investing.com ดูการเปิดเผยข้อมูลที่นี่หรือ หรือลบโฆษณา

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย