InfoQuest - นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 35.22 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจาก ปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 35.26 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลหลัก แต่ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาเพิ่มเติม ส่วนปัจจัยในประเทศยังคงรอดูความชัดเจนของโฉมหน้าของทีมรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ตลอดจนนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ "บาทแข็งค่าจากเย็นวานนี้ลงมาตามทิศทางตลาดโลก หลังดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก" นักบริหารเงิน กล่าว นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 35.10 - 35.35 บาท/ดอลลาร์ SPOT ล่าสุด อยู่ที่ระดับ 35.16750 บาท/ดอลลาร์
* ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 146.40 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 146.56 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0826 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0807 ดอลลาร์/ยูโร - อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.230 บาท/ดอลลาร์ - "สภาพัฒน์" ยืนกรานไม่มีแนวคิดปรับขึ้น VAT เป็น 10% รองรับสังคมผู้สูงวัย เป็นแค่ไอเดียเท่านั้น ส่วนกระเป๋าเงินดิจิ ทัล 1 หมื่นบาท ต้องพิจารณารายละเอียดรอบด้าน - "เศรษฐา" เผยเตรียมส่ง เลขาฯครม.ตรวจสอบคุณสมบัติ "เพื่อไทย" ขอสลับเก้าอี้ ดัน "สุทิน คลังแสง" นั่งกลาโหม รทสช.เปลี่ยนชื่อรมว.อุตสาหกรรม ส่ง "พิมพ์ภัทรา" คุม "ชลน่าน" รับ 141 เสียง มีข้อจำกัด ทำเพื่อไทยชวดกระทรวงใหญ่ - 8 สายการบินพบ "นายกฯ เศรษฐา" และคณะ เตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยวช่วงไฮซีซัน หลังแผนเปิดฟรีวีซ่าบางประเทศ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ด้าน "เศรษฐา" เผยมีแผนไปโปรโมตการท่องเที่ยวไทยในต่างประเทศปีหน้า ในเที่ยวบินที่มีความพร้อม - ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (28 ส.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อและการจ้างงานของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยของ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) - สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (28 ส.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์และการร่วงลง ของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อและแรงงานของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินทิศทาง อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) - นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของ แรงงาน (JOLTS) เดือนก.ค., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.จาก Conference Board, ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนส.ค. จาก ADP, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2566 (ประมาณการครั้งที่ 2), ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (Pending Home Sales) เดือนก.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนก.ค., ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค. และดัชนีภาคการผลิตเดือนส.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)