Investing.com - บรรดาผู้จัดการสินทรัพย์คาดการณ์ว่าค่าเงินดอลลาร์จะมีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์เงินเฟ้อที่ชะลอตัวในสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลให้มาตรการนโยบายการเงินที่เข้มงวดตลอดทั้ง 16 เดือนของธนาคารกลางสหรัฐฯ ยุติลง
นักลงทุนสถาบัน ซึ่งรวมถึงกองทุนบำเหน็จบำนาญ บริษัทประกัน และกองทุนรวมต่างเพิ่มสถานะขายสุทธิในสกุลเงิน ดอลลาร์สหรัฐ ขึ้น 18% แตะ 568,721 ในช่วงสัปดาห์ก่อนถึงวันที่ 18 กรกฎาคม ข้อมูลนี้รวบรวมจากคู่สกุลเงินแปดคู่ผ่านข้อมูลเชิงลึกที่จัดทำโดย Commodity Futures Trading Commission และรวบรวมโดยบลูมเบิร์ก
ราคาดัชนีสปอตดอลลาร์ของบลูมเบิร์กแสดงให้เห็นถึงการลดลงอย่างมีนัยสำคัญที่สุดในรอบครึ่งปีในวันที่ 12 กรกฎาคม ตามรายงานที่ระบุว่าเดือนมิถุนายนมีอัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลงอย่างมากมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ การคาดการณ์ในสัปดาห์นี้ชี้ให้เห็นว่าแม้ว่าเฟดจะมีแนวโน้มเพิ่มอัตราหลักเล็กน้อย แต่อาจเริ่มลดเกณฑ์มาตรฐานในต้นปีหน้า
Rodrigo Catril นักยุทธศาสตร์การแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศระดับแนวหน้าของ National Australia Bank Ltd. แบ่งปันมุมมองของเขาผ่านช่องข่าวทีวีบลูมเบิร์ก โดยระบุว่ามีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นในหมู่ผู้เล่นในตลาดเกี่ยวกับการลดลงของอัตราเงินเฟ้อสหรัฐในไตรมาสต่อ ๆ ไป เขากล่าวเพิ่มเติมว่า แนวโน้มนี้อาจทำให้พวกเขาคาดหวังต่อการสิ้นสุดอัตราเงินเฟ้อ และยังรวมถึงการลดอัตราดอกเบี้ยจากเฟดในช่วงปลายปีอีกด้วย ซึ่งเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่มีส่วนสำคัญต่อการอ่อนค่าของการคาดการณ์เงินดอลลาร์สหรัฐฯ
โดยการรวบรวมข้อมูลจากบลูมเบิร์กในบรรดาสกุลเงินทั้งหมดที่ได้รับการวิเคราะห์ ผู้จัดการสินทรัพย์ทั้งหลายได้ขยายการ Short สุทธิของเงินดอลลาร์ของพวกเขาเป็นส่วนใหญ่เมื่อเทียบกับยูโรและปอนด์ ในขณะเดียวกันก็ลด Short เงินเยนลงอย่างครอบคลุมตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้ว
สัปดาห์นี้คาดว่าจะมีการตัดสินนโยบายของธนาคารกลางที่สำคัญหลายแห่ง รวมถึงจาก เฟด ในวันพุธ ตามด้วยการตัดสินของ ECB และ BoJ ซึ่งจะถึงกำหนดในสัปดาห์นี้