- สถานการณ์ระหว่างสหรัฐฯ-อิหร่าน
สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่านทวีความรุนแรงขึ้นอีกครั้ง หลังจากอิหร่านออกมาประกาศว่าจะไม่ทำตามข้อตกลงนิวเคลียร์เมื่อปี 2015 อีกต่อไป หมายความว่าจะไม่มีการจำกัดปริมาณการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมแล้ว
อิหร่านได้ประกาศแล้วว่าจะตอบโต้เอาคืนสหรัฐฯ แน่นอนภายหลังจากการเสียชีวิตของนายพลสุไลมานีจากการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในขณะที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ เองก็เตือนว่าจะมี "การตอบโต้เอาคืนครั้งใหญ่" เช่นกันหากอิหร่านทำการตอบโต้ใด ๆ
- ราคาน้ำมันยังคงไต่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ราคาน้ำมันไต่ขึ้นอีกในวันนี้ จากเมื่อวันศุกร์ที่ราคาพุ่งขึ้นมากกว่า 3% ท่ามกลางความกังวลต่ออุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นต่ออุปทานตลาดพลังงาน
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ได้ทะยานขึ้นเหนือระดับ $70 ต่อบาร์เรล สู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้วเมื่อครั้งที่โรงกลั่นน้ำมันซาอุดิอาระเบียถูกโจมตี โดยสัญญาเบรนท์มีราคาซื้อขายล่าสุดอยู่ที่ $69.56 เมื่อเวลา 5:35 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (10:35 GMT) ปรับตัวขึ้นจากราคาปิดเมื่อวันศุกร์ 96 เซนต์ หรือคิดเป็น 1.4%
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเวสท์เท็กซัส มีราคาที่ $63.77 ต่อบาร์เรล สูงขึ้น 72 เซนต์หรือคิดเป็น 1.1% หลังจากก่อนหน้านี้ได้ขึ้นไปแตะ $64.72 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน
- สินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยสูงกำลังเป็นที่นิยม
ราคาทองคำ พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบเจ็ดปี ทะยานขึ้นไปแตะระดับ $1,582 ต่อออนซ์ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2013 ในขณะที่ค่าเงินเยนและสกุลเงินที่มีความปลอดภัยสูงอื่น ๆ ก็เป็นที่นิยมในตลาดเช่นกัน
เงินเยน แตะระดับสูงสุดในรอบสามเดือนที่ 107.77 เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อคืนนี้ และมีราคาซื้อขายล่าสุดอยู่ที่ 108.00 ส่วน เงินฟรังก์สวิส ก็เข้าใกล้ระดับสูงสุดในรอบสี่เดือนที่1.0824 เมื่อเทียบกับเงินยูโรเมื่อวันศุกร์
ดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ย่อตัวลง 0.2% สู่ระดับ 96.28
- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เตรียมเปิดตัวในแดนลบ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เตรียมเปิดตัวต่ำลงอย่างต่อเนื่องมาจากวันศุกร์ในวันนี้ โดยเมื่อเวลา 5:35 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (10:35 GMT) สัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนี Dow ปรับลง 171 จุดหรือ 0.6% สัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนี S&P 500 ติดลบ 0.6% ส่วน สัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนี Nasdaq 100 ย่อตัวลง 0.7%
ความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นผนวกกับข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ชี้ให้เห็นว่ากิจการภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯ หดตัวลงเกินคาดในเดือนธันวาคม ล้วนเป็นแรงกดดันที่ทำให้บรรดาดัชนีหลักในวอลล์สตรีทต่างก็ปรับตัวลงจากระดับสูงสุดที่ทำได้เมื่อวันศุกร์
ปฏิทินเศรษฐกิจสหรัฐฯ และการรายงานผลประกอบการค่อนข้างเบาบางในวันนี้ โดยจะมีเพียงการรายงานดัชนี PMI ภาคกิจการบริการ ในเวลา 9:45 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก
- ธุรกิจฝั่งยูโรโซนซบเซา
ผลสำรวจล่าสุดเผยว่ากิจกรรมของธุรกิจฝั่งยูโรโซนในเดือนธันวาคมค่อนข้างนิ่ง แม้ว่าตัวเลขภาคกิจการบริการจะมีทิศทางที่ดีขึ้นแต่ตัวเลขภาคอุตสาหกรรมยังคงหดตัวลงอย่างต่อเนื่อง
ดัชนี PMI ฝั่งยูโรโซนจาก IHS Markit ในเดือนธันวาคมดีดขึ้น 50.9 จากเดือนพฤศจิกายน 50.6
ทางด้านสหราชอาณาจักรก็มีผลสำรวจที่คล้ายคลึงกันซึ่งแสดงให้เห็นว่าดัชนี PMI ภาคกิจการบริการดีดขึ้นมาเล็กน้อยและแตะ 50.0 เมื่อช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าจะแสดงให้เห็นว่ากิจการบริการค่อนข้างซบเซา แต่ดัชนีความเชื่อมั่นกลับพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 15 เดือนเลยทีเดียว