Investing.com - ห้าประเด็นหลักที่คุณควรทราบก่อนเริ่มต้นสัปดาห์นี้มีดังต่อไปนี้
1. ตลาดโลกเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยุโรป สหราชอาณาจักร สวิตเซอร์แลนด์ แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และญี่ปุ่นจะปิดทำการในวันพุธเนื่องในวันปีใหม่
ช่วงเวลานี้ของปีมักจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ลงทุนเนื่องจากขาขึ้น "ซานตาคลอส" ได้หนุนตลาดหุ้นให้ปรับตัวขึ้นในระยะสั้น ๆ มาโดยตลอด และในปีนี้ก็เช่นกัน
จากข้อมูลของ Stock Trader’s Almanac พบว่า ภายในระยะเวลาห้าวันสุดท้ายของการซื้อขายในปีก่อนและสองวันแรกของการซื้อขายในปีใหม่ ดัชนี ได้ปรับตัวขึ้นโดยเฉลี่ย 1.3% ทุกปีมาตั้งแต่ปี 1950
เฟดจะเผยแพร่ นโยบายทางการเงินประจำเดือนธันวาคมในวันศุกร์นี้เวลา 14:00 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (19:00GMT)
เฟดได้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ดังเดิมหลังจากการประชุมเมื่อวันที่ 11 ธันวาคมตามที่ตลาดคาดไว้ และส่งสัญญาณว่าอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ในระดับเดิมไปอีกสักพัก
นอกจากนี้ผลคาดการณ์ทางเศรษฐกิจยังพบว่าสมาชิกเฟด 13 ท่านจากทั้งหมด 17 ท่านเล็งเห็นว่าจะไม่มีการลดอัตราดอกเบี้ยไปอีกอย่างน้อยถึงปี 2021
3. ดัชนี PMI ภาคการผลิตจาก ISM ของสหรัฐฯ
สถาบันการจัดการอุปทานสหรัฐฯ (ISM) จะรายงาน ประจำเดือนธันวาคมในวันศุกร์เวลา 10:00 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (15:00 GMT)
คาดว่าตัวเลขจะออกมาสูงขึ้นเล็กน้อย 49.0 จากเดือนที่แล้ว 48.1
ตัวเลขที่สูงกว่า 50.0 แสดงให้เห็นถึงการขยายตัว ขณะที่ตัวเลขที่ต่ำกว่า 50.0 บ่งบอกถึงการหดตัว
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI) เป็นตัวเลขที่บ่งบอกสภาพทางเศรษฐกิจได้ดี และนักวิเคราะห์หลายท่านมักใช้ดัชนี PMI วิเคราะห์สภาพทางเศรษฐกิจมากกว่าตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ เนื่องจากอาจได้รับการปรับผลกระทบจากปัจจัยทางฤดูกาลและมักจะมีการปรับตัวเลขอยู่บ่อย ๆ
4. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากคณะกรรมการประชุมสหรัฐฯ
ในวันพรุ่งนี้คณะกรรมการประชุมจะรายงาน ประจำเดือนธันวาคมในเวลา 10:00 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (15:00 GMT)
ผลคาดการณ์อย่างเป็นเอกฉันท์ชี้ว่าตัวเลขจะออกมาสูงขึ้น 128.2 จากเดือนก่อน 125.5
ซึ่งหากออกมาเป็นเช่นนั้นจริงก็จะเป็นตัวเลขที่ยอดเยี่ยมที่สุดภายในรอบสามเดือนที่ผ่านมาเลยทีเดียว
5. ผลสำรวจภาคการผลิตของจีน
สหพันธ์โลจิสติกส์และการจัดซื้อของจีนจะรายงานตัวเลข ประจำเดือนธันวาคมในวันพรุ่งนี้เวลา 01:00 GMT คาดว่าตัวเลขจะลดลงเล็กน้อย 50.1 จากเดือนก่อน 50.2
ส่วน ซึ่งจะเน้นการเก็บรวบรวมข้อมูลจากบริษัทรายย่อยและขนาดกลาง จะรายงานในวันพฤหัสบดีเวลา 01:45 GMT คาดว่าตัวเลขจะลดลงเล็กน้อย 0.1 จุดเท่ากับ 51.7
ที่ผ่านมาเศรษฐกิจจีนได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากอุปสงค์ภายในประเทศซบเซาและภาษีศุลกากรสหรัฐฯ ทำให้เกิดการชะลอตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบสามทศวรรษในไตรมาสที่สาม และจึงกระตุ้นให้รัฐบาลจีนออกมาตรการทางเศรษฐกิจเพิ่มเติมเพื่อหลีกเลี่ยงการชะลอตัวทางเศรษฐกิจที่รุนแรงกว่านี้