InfoQuest - ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (15 มี.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกต่อวิกฤตการณ์ในภาคธนาคารของสหรัฐและยุโรป
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน พุ่งขึ้น 1% แตะที่ระดับ 104.6299
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9285 ฟรังก์ จากระดับ 0.9132 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3741 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3681 ดอลลาร์แคนาดา
นอกจากนี้ ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.5693 โครนา จากระดับ 10.4665 โครนา แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 133.50 เยน จากระดับ 134.16 เยน
ส่วนยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.0587 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0740 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2077 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2172 ดอลลาร์
นักลงทุนเทขายหุ้นธนาคารเครดิต สวิส ออกมาอย่างหนัก หลังจากธนาคารซาอุดี เนชั่นแนล แบงก์ (Saudi National Bank) หรือ SNB ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของเครดิต สวิส ประกาศว่า SNB ไม่สามารถเพิ่มความช่วยเหลือทางการเงินต่อเครดิต สวิส เนื่องจากจะทำให้ SNB ถือหุ้นในเครดิต สวิสมากกว่า 10% ซึ่งจะเป็นการทำผิดกฎระเบียบธนาคาร
เครดิต สวิสซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสวิตเซอร์แลนด์ เผชิญวิกฤตการณ์ทางการเงินอย่างหนัก โดยธนาคารขาดทุนสุทธิ 1.4 พันล้านฟรังก์สวิสในไตรมาส 4/2565 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 1.32 พันล้านฟรังก์ ส่งผลให้ยอดขาดทุนตลอดทั้งปีอยู่ที่ 7.3 พันล้านฟรังก์ นอกจากนี้ ลูกค้าได้แห่ถอนเงินฝากมากกว่า 1.10 แสนล้านฟรังก์ในไตรมาส 4 ซึ่งเป็นผลมาจากข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับการทำผิดกฎระเบียบและความเสี่ยงในการถูกดำเนินคดี
วิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นกับเครดิต สวิส ถือเป็นการซ้ำเติมความกังวลจากการที่รัฐบาลสหรัฐสั่งปิดกิจการของซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (Silicon Valley Bank) และซิกเนเจอร์ แบงก์ (Signature Bank)