เมื่อวันศุกร์ดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น พลิกฟื้นจากขาลงห้าวันติดต่อกันหลังจาก การจ้างงานนอกภาคการเกษตร ออกมาดีเกินคาด ยิ่งหนุนความคาดหวังที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ดังเดิมหลังจากลดอัตราดอกเบี้ยมาแล้วสามครั้งในปีนี้
สัปดาห์ที่แล้วดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับลงเนื่องจากตัวเลขที่ย่ำแย่จากการจ้างงานภาคเอกชน, กิจการบริการ, การผลิต และรายจ่ายภาคการก่อสร้าง ซึ่งต่างเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังชะลอตัว
ตัวเลขตลาดแรงงานเมื่อวันศุกร์เป็นข่าวดีท่ามกลางสัญญาณในแง่ลบ และความคลุมเครือของการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนที่ยังคงดำเนินอยู่ต่อไป
ถึงกระนั้นดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงมีเปอร์เซ็นต์ขาลงรายสัปดาห์ที่ย่ำแย่ที่สุดในระยะเวลานานกว่าหนึ่งเดือนแม้จะมีแรงบวกจากเมื่อวันศุกร์ก็ตาม
ดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับขึ้น 0.3% อยู่ที่ 97.64 ในช่วงหลังของการซื้อขาย โดยดัชนียังคงติดลบรายสัปดาห์ 0.6% ซึ่งเป็นขาลงรายสัปดาห์ครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน
ดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง 0.1% เมื่อเทียบกับ เงินเยน อยู่ที่ 108.57 ถือเป็นผลงานรายสัปดาห์ที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบสองสัปดาห์
ปอนด์สเตอร์ลิง ย่อตัวลง 1.3135 ค่าเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบสองปีครึ่งเมื่อเทียบกับ ยูโร ขณะที่ความเชื่อมั่นของตลาดเริ่มหวนกลับคืนมาว่า Brexit อาจสิ้นสุดลงในเร็ว ๆ นี้
ทั้งนี้ Investing.com ได้รวบรวมเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ที่น่าจะส่งผลต่อตลาดในสัปดาห์นี้มาดังต่อไปนี้
วันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม
ญี่ปุ่น - GDP ที่ได้รับการปรับตัวเลข
เยอรมนี - ดุลการค้า
ยูโรโซน - ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ลงทุน Sentix
วันอังคารที่ 10 ธันวาคม
สหราชอาณาจักร - GDP, ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม
เยอรมนี - ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ ZEW
วันพุธที่ 11 ธันวาคม
วันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม
สวิตเซอร์แลนด์ - ผลพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยจาก SNB และ การแถลงข่าว
สหรัฐฯ - ดัชนี PPI, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก