InfoQuest - นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 32.75/77 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงกับ ช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 32.74 บาท/ดอลลาร์ วันนี้เงินบาทค่อนข้างแกว่งในกรอบแคบ เนื่องจากการซื้อขายเบาบาง และระหว่างวันยังไม่มีปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการเคลื่อน ไหวของค่าเงินบาทมากนัก โดยตลาดรอดูการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ในคืนนี้ เช่น GDP ไตรมาส 4/2565 (ประมาณ การเบื้องต้น), ยอดขายบ้านใหม่เดือนธ.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่วันนี้ตลาดหุ้นจีนยังคงปิดทำการเนื่องในเทศกาลตรุษจีน นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.60 - 32.80 บาท/ดอลลาร์
* ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 129.95/96 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 129.12 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0893/0897 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0918 ดอลลาร์/ยูโร - ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,671.34 จุด ลดลง 10.77 จุด (-0.64%) มูลค่าการซื้อขาย 72,405.67 ล้านบาท - สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,276.03 ลบ. (SET+MAI) - สถาบันการเงินของรัฐ มีความจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ โดยเริ่มมีผลตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 เป็นต้นไป เพื่อให้สอดคล้องกับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในตลาด - โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย คาดการณ์ยอดขายรถยนต์ในปี 2566 จะอยู่ที่ 9 แสนคัน หรือเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 6% โดย แนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในปีนี้ จะกลับคืนสู่สภาวะปกติอย่างค่อยเป็นค่อยไป พร้อมๆ กับการฟื้นตัวของภาคเศรษฐกิจโดยรวมทั้งหมด - องค์การสหประชาชาติ (UN) เผยรายงานสถานการณ์และแนวโน้มเศรษฐกิจโลกประจำปี 2566 โดยระบุว่า เศรษฐกิจ โลกในปี 2566 มีแนวโน้มขยายตัวเพียง 1.9% ซึ่งลดลงอย่างมากจากปี 2565 ที่ประมาณการไว้ว่าอาจจะขยายตัว 3.0% โดยตัวเลขคาด การณ์เศรษฐกิจปี 2566 เป็นหนึ่งในอัตราการขยายตัวต่ำที่สุดในรอบหลายสิบปี - UN เรียกร้องให้รัฐบาลทั่วโลกหลีกเลี่ยงการใช้นโยบายรัดเข็มขัดด้านการคลัง เนื่องจากจะขัดขวางการเติบโตของ เศรษฐกิจและส่งผลกระทบต่อภาคส่วนที่เปราะบางมากที่สุด พร้อมเตือนว่า ภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตช้าลง ประกอบกับเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นอย่าง รวดเร็ว และภาวะเปราะบางที่เกิดจากวิกฤตหนี้สินนั้น จะส่งผลกระทบต่อความพยายามในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน - ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานสรุปมุมมองเศรษฐกิจ (Summary of Opinions) จากการประชุมประจำ เดือนม.ค. โดยระบุว่า กรรมการ BOJ หลายคนย้ำถึงความจำเป็นในการประเมินผลกระทบของการขยายกรอบอัตราผลตอบแทนพันธบัตร รัฐบาลญี่ปุ่นในเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา และมองว่า BOJ จำเป็นต้องใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไป เนื่องจากยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมาย เงินเฟ้อที่ระดับ 2% - ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยว่า จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป แต่นักวิเคราะห์บางส่วนยังไม่แน่ ใจว่า ECB จะเดินหน้านโยบายการเงินที่เข้มงวดนี้ไปอีกนานเท่าไร - ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่จะมีการรายงานในคืนนี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดขาย บ้านใหม่เดือนธ.ค. และตัวเลข GDP ไตรมาส 4/2565 (ประมาณการเบื้องต้น)