รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

5 ปัจจัยที่ต้องจับตา: เกิดอะไรขึ้นในตลาดสัปดาห์นี้?

เผยแพร่ 22/05/2565 18:54
อัพเดท 22/05/2565 18:26
© Reuters

โดย Noreen Burke 

Investing.com – ด้วยหุ้นสหรัฐฯ ที่อยู่ในช่วงขาลง นักลงทุนจับตามองรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันพุธเพื่อรับข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเพื่อที่จะเตรียมการตอบสนองต่อนโยบายของธนาคารกลางต่ออัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น รายรับจากยอดค้าปลีกจะได้รับความสนใจหลังจากผลประกอบการที่น่าผิดหวังจากผู้ค้าปลีกรายใหญ่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำตลาดสั่นสะเทือนและได้รับผลกระทบอย่างหนักจากความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ความไม่แน่นอนทางการเมืองที่เกิดจากสงครามในยูเครนและแนวโน้มเศรษฐกิจถดถอย ข้อมูลรายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลของสหรัฐฯ ซึ่งมีมาตรการทางการเงินเพื่อปรามเงินเฟ้อของเฟดจะเป็นไฮไลท์ของปฏิทินเศรษฐกิจ ขณะที่ข้อมูล PMI นอกยูโรโซนและสหราชอาณาจักรก็จะถูกจับตาอย่างใกล้ชิดเช่นกัน นี่คือสิ่งที่คุณต้องรู้เพื่อเริ่มต้นสัปดาห์นี้

  1. บันทึกการประชุมเฟด

นักลงทุนจะหวังว่า บันทึกการประชุม ของเฟดในวันพุธ จะให้เบาะแสบางอย่างเกี่ยวกับว่าธนาคารกลางสหรัฐจะควบคุม เงินเฟ้อ ที่รุนแรงที่สุดในรอบสี่ทศวรรษโดยที่ไม่ทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้หรือไม่

เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดมั่นใจว่าธนาคารกลางสามารถบรรลุ "การลงจอดที่นุ่มนวล" ได้ แต่วอลล์สตรีทไม่เชื่อว่าเฟดสามารถทำได้ โดยมีคำเตือนเกี่ยวกับโอกาสที่เศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย

นักยุทธศาสตร์ของ Goldman Sachs คาดการณ์ว่ามีโอกาส 35% ที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะถดถอยในอีกสองปีข้างหน้า ในขณะที่นักวิเคราะห์ของ Wells Fargo คาดว่าสหรัฐฯ จะถดถอยเล็กน้อยในช่วงปลายปี 2022 และต้นปี 2023

เฟดได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปแล้ว 75 จุดพื้นฐานตั้งแต่เดือนมีนาคม และตลาดต่าง ๆ ได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 50 จุดพื้นฐาน หลังการปรับอัตราดอกเบี้ย ในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม

พาวเวลล์ให้คำมั่นว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้สูงเท่าที่จำเป็นเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ รายงานการประชุมจะแสดงให้เห็นว่าผู้กำหนดนโยบายยืนหยัดและคาดหวังกับตัวเลขเงินเฟ้ออย่างไร และเศรษฐกิจจะมีความยืดหยุ่นเพียงพอที่จะเผชิญกับนโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้นหรือไม่

  1. ยอดค้าปลีก

นักลงทุนจะได้รับรายงานผลประกอบการจาก Costco (NASDAQ:COST), Dollar General (NYSE:DG) และ Best Buy (NYSE:BBY) ในสัปดาห์ที่จะมาถึงหลังจากผลประกอบการที่น่าผิดหวังจากผู้ค้าปลีกรายใหญ่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้ตอกย้ำตลาดหุ้น ทำให้เกิดความกลัวต่อแนวโน้มเศรษฐกิจที่กำลังจะเกิดขึ้น

Walmart (NYSE:WMT) ซึ่งเป็นผู้ค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของประเทศและเป็นคู่แข่งกับ Target (NYSE:TGT) รายงานว่าในขณะจำนวนลูกค้าที่เข้าร้านยังแข็งแกร่ง แต่อัตราเงินเฟ้อที่สูงได้เริ่มกัดเซาะกำลังซื้อของผู้บริโภคชาวอเมริกัน

ในขณะที่นายหน้าในวอลล์สตรีทคาดว่าผลกำไรจะถูกกดดันจากต้นทุนเชื้อเพลิงที่พุ่งสูงขึ้น นักวิเคราะห์กล่าวว่าพวกเขาถูกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัวจากการที่ผู้บริโภคลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว และเปลี่ยนไปสู่การซื้อพื้นฐานที่มีอัตรากำไรต่ำแทนที่จะเป็นสินค้าทั่วไปที่ทำกำไรได้มากกว่า

นักวิเคราะห์กล่าวว่าขอบเขตของการสะสมสินค้าคงคลังและการลดราคาอย่างหนักโดยผู้ค้าปลีกนั้นค่อนข้างน่าตกใจเช่นกัน

  1. ตลาดหมีกำลังจะมาหรือไม่

หุ้นสหรัฐอยู่ในเกณฑ์ของตลาดหมี – ถือว่าลดลงอย่างน้อย 20% จากระดับสูงสุด

S&P 500 สิ้นสุดวันศุกร์โดยร่วงลง 19% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของวันที่ 3 มกราคม และ Nasdaq ร่วงลงมากกว่าหนึ่งในสี่จากระดับสูงสุดในเดือนพฤศจิกายน 2021

ตลาดได้รับแรงกดดันให้ปรับตัวลงจากความกังวลเรื่องเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น เฟดที่ดุดัน และแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจ นสงครามในยูเครนยังเพิ่มการเทขายหุ้น ซึ่งทำให้ราคาน้ำมันและราคาสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ ทะยานขึ้น

นักลงทุนได้ดูตัวชี้วัดต่าง ๆ เพื่อกำหนดว่าเมื่อใดที่ตลาดจะสูงขึ้น ซึ่งรวมถึง ดัชนีความผันผวนของ CBOE หรือที่รู้จักในชื่อมาตรวัดความกลัวของวอลล์สตรีท แม้ว่าดัชนีจะสูงขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยระยะยาว แต่ดัชนีก็ยังต่ำกว่าระดับที่ขายได้จากการเทขายครั้งใหญ่อื่น ๆ

  1. ข้อมูลเศรษฐกิจ

สหรัฐฯ จะเปิดเผยข้อมูลเดือนเมษายนเกี่ยวกับ รายได้ส่วนบุคคล และ การใช้จ่าย ในวันศุกร์ รายงานนี้ยังประกอบด้วยมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อเบื้องต้นของเฟด นั่นคือ ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าข้อมูลจะแสดงให้เห็นว่าการใช้จ่ายยังคงแข็งแกร่งในเดือนที่แล้ว แม้จะมีอัตราเงินเฟ้อสูงก็ตาม

ปฏิทินเศรษฐกิจยังมีรายงานเกี่ยวกับ คำสั่งซื้อสินค้าคงทน ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะยังคงมั่นคง รวมทั้งข้อมูลเกี่ยวกับ จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก และตัวเลข  GDP ที่แก้ไขในไตรมาสแรก ซึ่งคาดว่าจะได้รับการแก้ไขให้สูงขึ้นเล็กน้อย

ในขณะเดียวกัน ข้อมูลเกี่ยวกับ ยอดขายบ้านใหม่ อาจชี้ให้เห็นถึงการชะลอตัวในตลาดที่อยู่อาศัยเนื่องจากอัตราการจำนองสูงขึ้นและผู้บริโภคระมัดระวังมากขึ้น

  1. ข้อมูล PMI

สหราชอาณาจักรและยูโรโซนจะเปิดเผยข้อมูล PMI ที่น่าจับตามองอย่างใกล้ชิดในสัปดาห์นี้

แม้ว่าข้อมูล PMI ของยูโรโซนจะสร้างความประหลาดใจให้กับขาขึ้นในเดือนเมษายน โดยบริการต่าง ๆ  ได้รับแรงหนุนจากการเปิดให้บริการอีกครั้งหลังเกิดการแพร่ระบาดของโควิด19 สายพันธุ์โอมิครอน ข้อมูลสำหรับเดือนนี้จะให้ความกระจ่างมากขึ้นว่าผู้บริโภคจะใช้จ่ายกับ การบริการ เป็นระยะเวลาเท่าใดตามราคาที่พุ่งทะยานขึ้น

ในขณะเดียวกัน ดัชนีบรรยากาศทางธุรกิจของเยอรมนีจากสถาบัน Ifo ของเยอรมนีสำหรับเดือนพฤษภาคม ซึ่งกำหนดส่งมอบในวันจันทร์คาดว่าตัวเลขจะลดลง

ข้อมูล PMI ของสหราชอาณาจักรคาดว่าจะชี้ไปที่ความต้องการลดลงในกลุ่ม งานบริการ ในเดือนนี้ แอนดรูว เบลีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษมีกำหนดจะขึ้นกล่าวในวันนี้

-- ข้อมูลจากสำนักข่าวรอยเตอร์ส 

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย