5 เหตุการณ์สำคัญ ปฏิทินเศรษฐกิจสัปดาห์นี้ (19-23 ส.ค.)

Investing.com - ห้าประเด็นหลักที่นักลงทุนควรทราบก่อนเริ่มต้นสัปดาห์นี้มีดังต่อไปนี้

1. แจ็คสัน โฮล

วันพฤหัสบดีนี้ คณะสมาชิกเฟดมีกำหนดการประชุมประจำปีที่ แจ็คสัน โฮล รัฐไวโอมิง ซึ่งผู้ลงทุนทั่วโลกจะพากันจับตาทิศทางนโยบายทางการเงินในอนาคต และรอฟังคำกล่าวจากประธานเฟด นายเจอโรม เพาเวลล์ ในวันศุกร์นี้ด้วย

ตลาดได้ลงเดิมพันไว้แล้วว่าเฟดจะต้อง ลดอัตราดอกเบี้ย อีกหนึ่งส่วนสี่จุดในเดือนกันยายนนี้ ภายหลังจากกราฟผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ แบบสองปีและแบบสิบปีได้ลาดลงจริง ๆ ในที่สุด แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเฟดจะมีแผนการอย่างไรเพื่อต่อกรกับแนวโน้มทางเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ท่ามกลางความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ยังคงทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ

2. รายงานผลการประชุมเฟด

เฟดจะเผยแพร่ รายงานการประชุม ประจำเดือนกรกฎาคมในวันพุธนี้ ซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงฐานเสียงของคณะเฟดที่สนับสนุนการลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในช่วงนานกว่าหนึ่งทศวรรษ แม้เพาเวลล์ได้ออกมาชี้แจงว่าการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุดเป็นเพียงแค่ "การปรับอัตราดอกเบี้ยในช่วงกึ่งกลางของวัฏจักร" และไม่ใช่จุดเริ่มต้นของวัฏจักรนโยบายแบบผ่อนคลายก็ตาม

แม้ว่าผลการตัดสินใจจะไม่เป็นเอกฉันท์เพราะมีสมาชิกเฟดสองท่านที่ลงคะแนนคัดค้านการลดอัตราดอกเบี้ย โดยอ้างอิงสัญญาณต่าง ๆ ที่บ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ แต่เมื่อพิจารณาจากสิ่งที่เกิดขึ้นในตลาดตราสารหนี้และตลาดหุ้นแล้ว อาจทำให้คณะส.ส.เฟดต้องย้อนกลับมาคิดใหม่อีกครั้งว่า การลดอัตราดอกเบี้ยแบบ 'แก้ขัด' จะกลายเป็นการเริ่มต้นวัฏจักรนโยบายแบบผ่อนคลายอย่างเต็มรูปแบบหรือไม่

3. รายงานผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป

ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะเผยแพร่ รายงานการประชุม ประจำเดือนกรกฎาคมในวันพฤหัสบดีนี้ แม้คาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเงิน แต่ ECB ก็ได้ปรับเปลี่ยนตัวเลขคาดการณ์ในอนาคตเพื่อบ่งชี้ว่าอาจมีการปรับอัตราดอกเบี้ยให้ลดลง อันเป็นการปูทางเผื่อไว้สำหรับการลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน และ ECB ยังกล่าวอีกว่าอาจนำมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณกลับมาใช้ใหม่อีกครั้งในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

ก่อนการเผยแพร่รายงานการประชุมดังกล่าว ผู้ลงทุนก็จะได้ทราบตัวเลขล่าสุดเกี่ยวกับกิจการภาคการผลิตและการบริการ อีกทั้งดัชนี PMI จากเยอรมนีก็เป็นที่น่าจับตาเป็นพิเศษภายหลังจากตัวเลขในไตรมาสที่สองออกมาหดตัวลง ยิ่งตอกย้ำความหวาดหวั่นต่อการเกิดภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจมากกว่าเดิม

4. ข้อมูลทางเศรษฐกิจ

ปฏิทินเศรษฐกิจสัปดาห์นี้ค่อนข้างเบาบาง โดยจะมีการรายงาน ยอดขายบ้านมือสองสหรัฐฯ และ ยอดขายบ้านมือหนึ่งสหรัฐฯ ซึ่งตัวเลขทั้งสองต่างก็ได้รับแรงหนุนจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง อัตราค่าจ้างที่เพิ่มขึ้น และอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่ลดลง

ทางฝั่งแคนาดาก็มีกำหนดการรายงาน อัตราเงินเฟ้อ, ยอดการค้าปลีก และ ดัชนีภาคผลผลิต ในสัปดาห์นี้ ล่วงหน้าก่อนการประกาศตัวเลข GDP ไตรมาสที่สองแบบผ่านการปรับตัวเลขย้อนหลัง

5. ผลประกอบการบริษัทผู้ค้าปลีก

บรรดาบริษัทผู้ค้าปลีกรายใหญ่ อาทิ Target (NYSE:TGT) และเครือบริษัทผู้จัดจำหน่ายสินค้าก่อสร้าง Home Depot (NYSE:HD) ต่างก็มีกำหนดการรายงานผลประกอบการรายไตรมาสในสัปดาห์นี้ รวมถึง Lowe’s (NYSE:LOW), Kohls (NYSE:KSS) และ TJX (NYSE:TJX) ด้วย

เมื่อพฤหัสบดีที่แล้ว Walmart (NYSE:WMT) ได้ปรับตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการสำหรับช่วงครึ่งปีหลัง และเผยการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมในสหรัฐฯ ที่สูงขึ้นเกินคาดในไตรมาสที่สอง อีกทั้งแรงหนุนจากตัวเลข ยอดการค้าปลีกสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง ล้วนมีส่วนช่วยผ่อนคลายความกังวลต่อการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ท่ามกลางความขัดแย้งทางการค้าและการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก

--เนื้อหาข่าวได้รับการสนับสนุนจากสำนักข่าวรอยเตอร์